เวนเกอร์แค้น จวกผีเล่นสกปรก

อาร์แซน เวนเกอร์(Asene Wenger)
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซน่อล ยังแค้นไม่หายจากความปราชัยต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีก ที่บุกไปเยือนถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา

เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า รับไม่ได้กับสไตล์การเล่นสกปรกของ แมนยู ที่จ้องแต่จะเข้าตัดเกมส์ เสียบสกัด และเป้าโจมตีในครั้งนี้ที่ เวนเกอร์ กล่าวถึงได้รับการคาดหมายว่าเป็น ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางเลือกสก็อตต์

"เราบุกไปแพ้ ยูไนเต็ด แต่สิ่งที่เป็นความจริงคือฝั่งโน้นเล่นได้ค่อนข้างสกปรก พวกเขาเข้าสกัด และคอยตัดเกมอย่างน่าเกลียดในหลายๆ จังหวะ ยิ่งกว่านั้นหลายจังหวะที่ว่าผู้ตัดสินกลับไม่จัดการอะไรเลย ผมไม่เข้าใจมันเกิดอะไรขึ้น"

"หลายคนมองว่าการพุ่งล้มของ เอดูอาร์โด้ ในเกมยุโรปที่เราพบกับ เซลติก น่าเกลียดแต่ผมมองว่าการเล่นของ ยูไนเต็ด น่าเกลียกว่าเป็นไหนๆ เขาน่าจะคิดถึงคนดู แฟนบอลซื้อตั๋วเข้ามาชมจังหวะฟรีคิกกันงั้นเหรอ ? เปล่าเลย พวกเขาต้องการดูฟุตบอลที่สวยงาม" เวนเกอร์กล่าว

รูนี่ย์ยืนยันไม่ได้พวกชอบพุ่งล้ม

เวย์น รูนี่ย์(Wayne Rooney)
ศึกพรีเมียร์ ลีก นัดบิ๊กแมชเมื่อคืนวานที่ผ่านมา "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยเหนือ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สุดระทึก 2:1 และในนาทีที่ 59 เป็นจังหวะ เวย์น รูนี่ย์ ถูก มานูเอล อัลมูเนีย จอมหนึบทีมเยือนรวบล้มในเขตโทษก่อนจะขันอาสายิงประตูด้วยตัวเอง

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ดาวยิงทีมชาติอังกฤษออกมากล่าวว่า "ผู้รักษาประตูของ อาร์เซน่อล เข้ามาสัมผัสตัวผมในทิศทางที่จะวิ่งไปเอาบอล ผมไม่คิดหรือสงสัยอะไรเลย เพราะว่าจังหวะนี้เป็นจุดโทษแน่นอนร้อยเปอร์เซนต์ และผมขอยืนยันว่าผมไม่ใช่พวกพุ่งล้มแน่นอน ผมมั่นใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้น จึงรับหน้าที่ยิงเข้าไป ซึ่งก็โชคดีมากที่เราคว้าชัยได้ในเกมนี้" รูนี่ย์ กล่าวในที่สุด

คาเปลโล่ยกรูนยิ่งใหญ่เทียบชั้นราอูล

เวย์น รูนี่ย์(Wayne Rooney)
กุนซือทีมชาติอังกฤษ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึง เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นลูกน้องในนามทีมชาติ เชื่อดาวยิงวัย 23 สามารถเพิ่มขีดความสามารถได้อีก พร้อมยกไปเปรียบ กับราอูล กอนซาเลซ กองหน้าจอมเก๋าของ รีล มาดริด

รูนี่ย์ ยิงประตูได้มากมายทั้งในนามทีมชาติและสโมสร สำหรับเกมลีกที่เพิ่งออกสตาร์ทมาได้ 4 เกม รูนี่ย์ ซัดไปแล้วทั้งสิ้น 3 ประตู

คาเปลโล่ ยก รูนี่ย์ เปรียบเทียบกับ ราอูล "เห็นรูนี่ย์ ในตอนนี้ทำให้นึกถึง ราอูล สำหรับ รูนี่ย์ เขาแข็งแกร่งและเฉียบคม ไม่แตกต่างอะไรจาก ราอูล ที่ผมเคยรู้จักและสัมผัสได้ครั้งคุม รีล มาดริด "

"ราอูล เป็นกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกันผมเชื่อว่า เวย์น จะก้าวไปถึงจุดนั้น เขาจะยิงได้ถล่มทลายมากกว่านี้" คาเปลโล่ กล่าว

เฟอร์กี้ชมเฟล็ทเล่นเนียน-เวนเกอร์เซ็งเปาเป่ามั่ว

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน - อาร์แซน เวนเกอร์
(Sir Alex Ferguson - Asene Wenger)
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา คู่บิ๊กแมตช์ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ต้องบอกว่าเป็นเกมที่แลกกันอย่างสนุก ก่อนจะจบลงด้วยชัยชนะของทีม "ปีศาจแดง"

อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากการซัลโวสุดสวยของ อังเดร อาร์ชาวิน ก่อนที่ แมนยู จะไล่ตีเสมอจากจุดโทษของ รูนี่ย์ และได้ประตูพลิกขึ้นนำ จากการโหม่งสกัดเข้าประตูตัวเองของ ดิยาบี้

เซอร์ อเล็กซ์ กุนซือแมนยู ออกมาให้สัมภาษณ์ "เราเล่นกันได้ยอดเยี่ยม การถูกนำไปก่อนไม่ได้ทำให้เราสูญเสียความมุ่งมั่น หากให้ผมเลือกนักเตะซักคนเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ คงเลือกยาก ทุกคนทำหน้าได้ดี แต่ที่เล่นได้เนียนคงเป็น ดาร์เรน เขาปัดกวาดเกมกลางสนาม สร้างความลำบากให้คู่ต่อสู้ เราจึงเล่นกันได้ง่ายขึ้น"

ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล ค่อนข้างหัวเสียทีเดียวกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน โดยเฉพาะจังหวะที่ อาร์ชาวิน โดน เฟล็ทเชอร์ เสียบสกัดในเขตโทษ แต่กลับไม่ได้ลูกจุดโทษ

"ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จังหวะที่เราน่าจะได้ ผู้ตัดสินกลับไม่เป่า ในทางตรงข้าม ยูไนเต็ด กลับได้ประโยชน์ในจังหวะที่ไม่น่าจะได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการมาเล่นที่ โอลด์แทรฟ ฟอร์ด ผมหัวเสียมาก อาร์ชาวิน โดนทำฟาวล์ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ตรงกันข้ามผมเตะขวดน้ำ ผมโดน" เวนเกอร์ กล่าว

ปีศาจแดงพลิกแซงปืนโตสุดมันส์ 2:1

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
วัน เสาร์ ที่ 29 สิงหาคม 2552
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2:1 อาร์เซน่อล
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน
ผู้ทำประตู : อังเดร อาร์ชาวิน น.40, เวย์น รูนี่ย์ จุดโทษน.59, อาบู ดิยาบี้ ทำเข้าประตูตัวเอง น.64

เกมนี้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางแผนมาอย่างรัดกุมโดยดร็อปเบอร์บาตอฟเป็นตัวสำรอง ใช้รูนี่ย์ค้ำแดนหน้า และให้ไรอัน กิ๊กส์ยืนเป็นหน้าต่ำ

ส่วนทางด้านอาร์เซน่อล จะไม่มีเชส ฟาเบรกาสกองกลางกัปตันทีมที่มีอาการบาดเจ็บ จะใช้ฟาน เพอร์ซี ยืนหน้าเป้า แต่มีแดนกลางถึง5คน

ครึ่งแรก

อาร์เซน่อลทีมเยือนเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน

นาทีที่ 10เฟล็ทเชอร์ได้โอกาสยิงครั้งแรก แต่บังเอิญพี่ท่านใช้เท้าซ้ายไม่ถนัด บอลข้ามคานออกไป

เกมเริ่มเปิดแลกเข้าใส่กันทั้งสองทีมแต่จังหวะสุดท้ายยังจบได้ไม่สวย

ผ่านมา 20 นาทีแรกแมนฯยูเริ่มตั้งเกมได้บ้างแล้ว หลังจากที่เกมส่วนใหญ่เป็นของอาร์เซน่อล

นาทีที่ 23อเล็กซ์ ซงโดนใบเหลืองคนแรกของเกม จากการเข้าเสียบวาเลนเซีย

นาทีที่ 25อาร์เซน่อลโต้กลับเร็ว เอบูเอ้ จ่ายให้ฟาน เพอร์ซี่ ล็อกเข้าอีซ้ายข้างถนัดแต่ยิงไปติดเอวร่าแฉลบออกหลังไป อาร์เซน่อลได้เตะมุม จากนั้นฟานเพอร์ซี เปิดลูกเตะมุมมาหน้าประตู ฟอสเตอร์ โชว์ความเอ๋อออกมาปัดลูกกลางอากาศแต่เจ้ากรรมบอลเข้าทาง "พี่ม้า" อาร์ชาวิน กะแปเน้นๆ แต่เฉี่ยวคานออกไป

นาทีที่ 32แมนฯยูได้ลูกฟรีคิกระยะ 20 หลา เป็นรูนี่ย์ที่ขอซัด ทว่าซ้อมมาน้อยยิงบอลไม่ตรงกรอบ

แมนฯยูมีโอกาสโต้กลับหลายต่อหลายครั้ง แต่ตัวทำเกมอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ มักครองบอลและจ่ายบอลเสียทำให้พลาดโอกาส

นาทีที่ 40อาร์เซน่อลขึงเกมบุกอย่างน่ากลัว และเป็นแฟนทีมเยือนที่ได้เฮลั่นสนามเมื่อ อาร์ชาวิน โชว์พลังเท้าอันทรงพลัง ซัดด้วยขวาเต็มตรีนนน บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม สุดเอื้อมฟอสเตอร์ อาร์เซน่อลขึ้นนำ 1:0

นาทีที่ 45แมนฯยูได้ลุ้นจากลูกเตะมุมก่อนหมดเวลาอีกครั้ง แต่เปิดไปเข้ามือ อัลมูเนีย จบครึ่งแรกอาร์เซน่อลขึ้นนำแมนฯยู 1:0

ครึ่งหลัง

เจ้าบ้านแมนฯยูเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นบ้าง เริ่มต้นครึ่งหลังยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นของทั้งสองทีม

นาทีที่ 48แฟนผีแดงใจหายวาบเมื่อ อาร์ชาวินแผงฤทธิ์อีกครั้งกระชากไปถึงเส้นหลังเปิดตวัดด้วยซ้ายมาให้ ฟาน เพอร์ซี่ ยิงจ่อๆ หน้าประตูไปติดเท้าของ เบน ฟอสเตอร์ แมนฯยูรอดพ้นการเสียประตูอย่างหวุดหวิด

นาทีที่ 53วาเลนเซียมีโอกาสยิงนอกกรอบบ้าง แต่บอลข้ามคานออกไปแบบหมดลุ้น

นาทีที่ 57เวส บราวน์ใจดี จ่ายบอลพลาดให้ อาร์ชาวิน หน้าตาเฉย แต่โชคดีที่พี่ม้าจ่ายต่อให้ ฟาน เพอร์ซี่ แล้วล้ำหน้าเสียก่อน เวส บราวน์ รอดจากการโดนด่า

แต่แล้วนาทีที่ 59แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮลั่น เมื่อเวย์น รูนี่ย์ โดน อัลมูเนียรวบในกรอบเขตโทษล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าให้จุดโทษทันที และเป็นรูนี่ย์ ที่ลุกขึ้นมายิงเอง ซัดมุมขวาเป็นประตูแมนฯยูตามตีเสมอ 1:1

นาทีที่ 63ฟาน เพอร์ซี่ ปั่นฟรีคิกด้วยซ้าย บอลผ่านมือ เบน ฟอสเตอร์ ไปแล้วแต่ดันไปชนคานอย่างจัง แมนฯยูได้โต้กลับเฟล็ทเชอร์ กระชากพาบอลขึ้นมาเต็มปีด(เหมือนจะเร็ว)โดนผู้เล่นอาร์เซน่อลทำฟาวล์แมนฯยู ได้ลูกฟรีคิก

นาทีที่ 64แฟนบอลอาร์เซน่อลต้องช็อกทั่วสนาม ไรอัน กิ๊ก เปิดฟรีคิกมาหน้าประตู เป็น อาบู ดิยาบี้ ที่โหม่งผิดเหลี่ยมบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองทำให้ แมนฯยูพลิกขึ้นนำ 2:1

นาทีที่ 65ดิยาบี้ มีโอกาสแก้ตัว เมื่อหลบ เวส บราวน์ ได้ แต่ยิงเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 71แฟนแมนฯยูหน้าจอ ต๊กกะใจไปตามๆกันเมื่อเอบูเอ้ กระชากบอลผ่านเอวร่าผู้ซึ่งโดนใบเหลืองไปก่อนหน้านี้ แล้วล้มลงกรรมการวิ่งมาแจกใบเหลือง แต่แจกให้เอบูเอ้แทน ฐานพุ่งล้ม

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายอาร์เซน่อลส่งเอดูอาร์โด้ ดาซิลวา และอารอน แรมซีย์ ลงมาเพื่อต้องการความสดในเกมรุก

นาทีที่ 85อาร์เซน่อลได้ลูกเตะมุม เป็นเวอร์มาเล่นที่โหม่งข้ามคานออกไป หลังจากนั้นแมนฯยูส่งเบอร์บาตอฟลงมาแทนไรอัน กิ๊กส์ (สงสัยเอาลงมาไล่บอล)

นาทีที่ 87เบนท์ดเนอร์ที่เปลี่ยนลงมาเบียดแย่งบอลกับเอวร่าได้ โยนไปที่หน้าประตู แต่ เอดูอาร์โด้ ลืมดื่มนมมาโหม่งไม่ถึง บอลผ่านหน้าประตู

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 5นาที แมนฯยูได้โต้กลับเร็วนานี่เปิดให้เบอร์บาตอฟหลุดเข้าไปยิงเหน่งๆ แต่ยิงทิ้งยิงขว้างบอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย อีก3นาทีต่อมานานี่มีโอกาสปิดฝาโลงแต่ยิงไปติดเซฟอัลมูเนีย วิ่งเข้าไปยิงซ้ำบอลโด่งข้ามคานออกไป แฟนอาร์เซน่อลยังมีโอกาส

ก่อนหมดเวลาแค่10วินาที อาร์เซน่อลโต้กลับเร็วเป็นโอกาสสุดท้ายฟาน เพอร์ซี่ ยิงเข้าไปแฟนปืนใหญ่เฮลั่นสนามแทบแตก แต่แม่เจ้าไลน์แมนยกธงล้ำหน้า เวนเกอร์ กุนซือ"ปืนใหญ่"ไม่พอใจ เตะขวดน้ำระบายอารมณ์ เลยโดน ไล่ขึ้นไปบนอัฒจันทร์ จบเกมแมนฯยูพลิกชนะอาร์เซน่อล 2:1

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : เบน ฟอสเตอร์
กองหลัง : จอห์น โอเชีย, เวส บราวน์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริช เอวร่า
กองกลาง : อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, หลุยส์ นานี่
กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์, ไรอัน กิ๊กส์
ผู้เล่นสำรอง : ปาร์ค จี ซุง, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ไมเคิ่ล โอเว่น, โทมัสซ์ คูสซ์แซ็ค, แกรี่ เนวิลล์, แอนเดอร์สัน, พอล สโคลส์


อาร์เซน่อล : ระบบ 4-5-1
ผู้รักษาประตู : มานูเอล อัลมูเนีย
กองหลัง : บาการี่ ซันญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส เวอร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่
กองกลาง : อาบู ดิยาบี้, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, อังเดร อาร์ชาวิน
กองหน้า : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผู้เล่นสำรอง : เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, วิโต้ มานโนเน่, มิคาเอล ซิลแวสตร์, คีแรน กิ๊บบ์ส, แจ็ค วิลเชียร์, อารอน แรมซีย์, นิคลาส เบนท์ดเนอร์

ผียิ้มรับหมาป่าหวดคาร์ลิ่งคัพรอบ3

คาร์ลิ่ง คัพ(Carling Cup)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้คิวลงป้องกันแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับ วูล์ฟส์ ในการเล่นรอบ 3 ขณะที่ ลิเวอร์พูล ต้องออกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ส่วน อาร์เซน่อล ลูบปากรอรับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ด้าน เชลซี เจองานเบาเหมือนกัน เมื่อจะได้ต้อนรับ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส

สรุปผลการจับสลากประกบคู่ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยจะทำการแข่งขันระหว่าง 21-24 กันยายนนี้
- อาร์เซน่อล พบ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
- เชลซี พบ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส
- โบลตัน วันเดอเรอร์ส พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
- บาร์นสลี่ย์ พบ เบิร์นลี่ย์
- ฮัลล์ ซิตี้ พบ เอฟเวอร์ตัน
- ลีดส์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ ฟูแล่ม
- ซันเดอร์แลนด์ พบ เบอร์มิงแฮม ซิตี้
- ปีเตอร์โบโร่ พบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
- คาร์ไลส์ พบ พอร์ทสมัธ
- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
- สโต๊ค ซิตี้ พบ แบล็คพูล
- สคันธอร์ป พบ พอร์ทเวล
- เปรสตัน พบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- แอสตัน วิลล่า พบ คาร์ดิฟฟ์

เซอร์ชี้ปืนเป็นคู่แข่งสำคัญซีซั่นนี้

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน(Sir Alex Ferguson)

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อ อาร์เซน่อล ยังเป็นหนึ่งในคู่แข่งสำคัญในการลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้ หลัง "ไอ้ปืนใหญ่" ทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงออกสตาร์ต พร้อมระบุการดวลกันของทั้ง 2 ทีมถือเป็นคู่เอกของลีกลูกหนังแดนผู้ดี และยังคงความเข้มข้นมาโดยตลอด แม้ระยะหลังจะลดดีกรีความดุเดือดลงไปพอสมควรก็ตาม

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อว่า อาร์เซน่อล จะยังเป็นหนึ่งในคู่แข่งสำคัญของ "ปีศาจแดง" ในการลุ้นแย่งแชมป์ฤดูกาลนี้ ก่อนที่ "ไอ้ปืนใหญ่" จะยกพลบุกมาเยือนถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันเสาร์ที่ 29 ส.ค.นี้ โดยชี้ว่าในปีนี้ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ แม้จะขาย 2 ตัวหลักอย่าง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ โคโล่ ตูเร่ ไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม

ในฤดูกาลนี้ พลพรรค" เดอะ กันเนอร์ส" ออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเก็บชัยชนะ 2 นัดรวด ขณะที่ "ปีศาจแดง" พลาดท่าบุกพ่ายน้องใหม่อย่าง เบิร์นลี่ย์ ไปแล้ว 1 นัด ก่อนที่ทั้งคู่จะโคจรมาเจอกันในวันเสาร์นี้ ซึ่งบรมกุนซือแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยอมรับว่าลูกทีมของตนจะต้องมีสมาธิกับเกมดวลแข้ง "ไอ้ปืนใหญ่" ตั้งแต่เริ่มต้น และต้องไม่ก่อความผิดพลาดอีก

"เฟอร์กี้" กล่าวว่า "เกมกับ อาร์เซน่อล มักจะเป็นเกมที่สนุกและน่าสนใจมากๆ อยู่เสมอ และ อาร์เซน่อล ก็สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงต้นฤดูกาลนี้ เกมที่พวกเขาบุกถล่ม เอฟเวอร์ตัน 6-1 ถือเป็นผลการแข่งขันที่เหลือเชื่อมากๆ ผมไม่เคยรู้เลยว่า เอฟเวอร์ตัน เคยเสียประตูในบ้านมากขนาดนั้นมาก่อนหรือเปล่า ผมจำไม่ได้ว่ามันเคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่"

"มันเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา แต่เราก็ยังมีเกมอยู่ในมือ เราต้องโชว์ฟอร์มให้ดีและเล่นให้ได้อย่างคงเส้นคงวา เราแพ้ไปแล้ว 1 เกม และไม่อาจสร้างความผิดพลาดได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว" กุนซือเฒ่าชาวสกอตต์ กล่าว

ขณะเดียวกัน เฟอร์กูสัน เชื่อว่าอริสำคัญอย่าง "ไอ้ปืนใหญ่" ยังคงแข็งแกร่งเช่นเคย แม้ดวลแข้งกันระหว่างทั้ง 2 ทีมในระยะหลังจะลดดีกรีความดุเดือดไปพอสมควรก็ตาม โดยกล่าวว่า "หลายปีที่ผ่านมา การดวลกันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ถือเป็นบิ๊กแมตช์ของพรีเมียร์ลีกอย่างไม่ต้องสงสัย"

"มันเป็นเกมชั้นยอด บางเกมมันก็เต็มไปด้วยความรวดเร็วมากๆ แต่ลักษณะเฉพาะตัวของทั้ง 2 ทีมเปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีนักเตะอย่าง รอย คีน หรือ ปาทริค วิเอร่า ซึ่งเล่นอย่างดุดันและมีความเป็นผู้นำในสนามอยู่ในทีมอีกต่อไปแล้ว ผมคิดว่าบุคลิกเฉพาะตัวของทั้ง 2 ทีมมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ระดับของความเข้มข้นของเกมมันไม่ได้ลดลงไปแต่อย่างใด เพียงแต่รูปแบบของเกมมันเปลี่ยนไปเท่านั้น"

"เกมการแข่งขันมันยังเหลืออีกถึง 35 นัด ดังนั้น คุณจึงไม่อาจบอกได้ว่าผลงานในช่วงแรกมันจะมีผลต่อการลุ้นแชมป์อย่างมากมาย อะไรนัก แต่ฤดูกาลที่แล้วเราเสียแต้มในการเจอกับทีมบิ๊กโฟร์ไปหลายคะแนน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราต้องการแก้ไขให้ดีขึ้น"

"ผมไม่เข้าใจคนที่กาชื่อ อาร์เซน่อล ออกจากสารบบลุ้นแชมป์ ผมว่ามันน่าจะเป็นความเห็นของพวกสื่อมากกว่า แต่ผมไม่เห็นอย่างนั้น พวกเขายังคงได้รับความเคารพ และสิ่งหนึ่งที่ อาร์แซน ทำได้ดีคือเขามักจะขายนักเตะในทีมออกไปในเวลาที่เหมาะสมเสมอ เขารู้ว่าเวลาไหนควรจะปล่อยให้นักเตะย้ายออกไปจากทีม แต่ผมไม่คิดว่าศักยภาพของพวกเขาจะลดลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว" นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กล่าวในที่สุด

เอฟเอเต้นผีบีบสกัดนักกายภาพหงส์

เดฟ กัลลี่ย์(Dev Galley)

เอฟเอ เต้นผาง ลือกระฉ่อนโดน "ปีศาจแดง" บีบหน้าเขียวปั๊ด ให้ลดชั้นนักกายภาพบำบัด "หงส์แดง" ลงไปทำหน้าที่ในทีมชาติอังกฤษ ชุด ยู-21 ตามเดิม เหตุไม่ต้องการให้มาถูกเนื้อต้องตัวแข้งดัง แมนฯ ยูไนเต็ด ในทีม "สิงโตคำราม" ชุดใหญ่ ยันหนักแน่นเป็นนโยบายภายในไม่เกี่ยวอะไรกับทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ปฏิเสธข่าวที่ว่าถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บีบไม่ให้รับ เดฟ กัลลี่ย์ นักกายภาพบำบัดของ ลิเวอร์พูล เข้ามาร่วมงานกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ เนื่องจากไม่พอใจหากบุคลากรของ "หงส์แดง" จะเข้ามาดูแลนักเตะของตนในทีม "สิงโตคำราม" โดยยืนยันว่าไม่มีการกดดันใดๆ ทั้งนั้นจาก "ปีศาจแดง" เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

กัลลี่ย์ ซึ่งทำงานประจำให้กับโรงเรียนลูกหนังของทีมดังในถิ่น แอนฟิลด์ นั้น ได้รับการเลื่อนขั้นจากบทบาทหน้าที่ในทีมผู้ดีรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี โดย ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีม "ทรี ไลอ้อนส์" ให้เข้ามาดูแลทีมชาติชุดใหญ่ในนัดกระชับมิตรที่เสมอกับ ฮอลแลนด์ 2-2 เมื่อวันพุธที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม แต่ก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ในทีม ยู-21 ตามเดิม เนื่องจากมีข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด บีบ เอฟเอ หน้าเขียวดังกล่าว

โฆษก เอฟเอ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า "เดฟ กลับไปร่วมทีม ยู-21 หลังจากทำหน้าที่ใน 1 นัด ไม่มีข้อสงสัยเรื่องความเป็นมืออาชีพของเขา เราต้องการสร้างความกระจ่างชัดเจนว่ามีข้อตกลงของบอร์ดบริหาร ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยว่าทีมงานฝ่ายแพทย์ควรจะเป็นอิสระ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้เรียกตัวนายแพทย์ เอียน บีสลี่ย์ และ แกรี่ เลวิน มาจากสโมสรฟุตบอล อาร์เซน่อล"

"ฟรังโก้ บัลดินี่ (ผู้จัดการทั่วไปของ คาเปลโล่) และ ราฟาเอล เบนิเตซ (ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล) ได้หารือกันถึงเรื่องนี้แล้ว และมันก็อธิบายได้ว่าเราต้องการให้ เดฟ มาช่วยทีม (ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่) ในนัดกระชับมิตรเดือนนี้ เราขอปฏิเสธการคาดเดาที่บอกว่าเราถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บีบคั้นในเรื่องนี้" กระบอกเสียงองค์กรลูกหนังเมืองผู้ดี กล่าวในที่สุด

พรีเมียร์เดือด! ผีดวลปืน

ปรีวิวพรีเมียร์ลีก 2009/10

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552

แมนฯ ยูไนเต็ด - อาร์เซน่อล

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด / เวลา 23.15 น.

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมทำศึกนัดสำคัญกับ อาร์เซน่อล โดยที่ผลงานล่าสุดค่อนข้างดี เมื่อถล่ม วีแกน แอธเลติก ถึง 5-0 หลังจากก่อนหน้านี้เสียฟอร์มสุดขีด แพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-1 โดยแชมป์เก่าของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะลงสนามด้วยความมั่นใจ หลังจากที่เอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ 4 ครั้งรวดในทุกถ้วยที่พบกันที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ในส่วนของความพร้อม เฟอร์กูสัน ยังอดใช้สองแข้งหลักที่ยังเดี้ยงอยู่อย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ และ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารชาวดัตช์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรายของ เฟอร์ดินานด์ ที่ เฟอร์กูสัน เชื่อว่า อาจฟิตไม่ทันเกมนัดเยือน สเปอร์ส ในวันที่ 12 ก.ย. ด้วย

อย่างไรก็ดี จอนนี่ อีแวนส์ เซนเตอร์แบ๊กอีกราย ยังคงพร้อมลงสนาม แม้จะมีปัญหาเจ็บข้อเท้าตามรังควาญ โดยกำหนดคิวเข้ารับการผ่าตัดตอนกลางเดือนหน้า และ เวส บราวน์ พร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้ง หลังผ่านเกมทีมสำรองแบบฉลุยเมื่อกลางสัปดาห์

เบน ฟอสเตอร์ นายทวารทีมชาติอังกฤษ เตรียมเฝ้าเสาต่อไป ขณะที่ ไมเคิ่ล คาร์ริค และ อันแดร์สัน ต่างหวังจะได้ลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก หลังพลาดเกมที่ไล่ถล่ม วีแกน 5-0 โดยในช่วงที่ผ่านมา มีข่าวว่าทั้งคู่แข็งข้อกับ เซอร์ อเล็กซ์ แต่ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะคลี่คตลายลงแล้ว ทั้งสองยังเป็นตัวเลือกของทีมอีกครั้ง

ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวาแซมบ้า, กาเบรียล โอแบร์กต็อง ปีกตัวใหม่ และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กลางรับชาวอังกฤษ ยังต้องพักแข้งต่อไป

ในส่วนของการจัดเกมรุก เซอร์ อเล็กซ์ ไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรจากเกมถลุง "เดอะ ลาติกส์" 5-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงบัลแกเรียน จะยึดตำแหน่งตัวจริงคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกชาวอังกฤษ หลังรายแรกยิง 1 เม็ด รายหลังยิง 2 ในเกมที่ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม ด้าน ไมเคิ่ล โอเว่น ที่ยิงได้ 1 ประตูเช่นกันกับวีแกน จะยังเป็นสำรองตามเดิม

แมนฯ ยูไนเต็ดใช้ 4-4-2 นายทวารเป็น เบน ฟอสเตอร์ แนวรับมี แกรี่ เนวิลล์, จอนนี่ อีแวนส์, เนมานย่า วิดิช และ ปาทริซ เอวร่า ปีขวาใช้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย กลางคู่เป็น ไมเคิ่ล คาร์ริค กับ อันแดร์สัน ให้ นานี่ ไปขึ้นทางริมเส้นซ้าย ส่วนหน้าคู่ใช้ เวย์น รูนี่ย์ กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ฟาก อาร์แซน เวนเกอร์ จะนำทีมปืนโต อาร์เซน่อล ลงเตะพรีเมียร์ลีก นัด 3 หลังเล่นมา 12 นัด เก็บ 6 แต้มเต็ม แถมยังเพิ่งผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเอาชนะ เซลติก 3-1 เมื่อวันพุธด้วย แต่เกมนี้เป็นงานหนัก เมื่อต้องบุกเยือนทีมแชมป์เก่า 3 สมัยซ้อน

อย่างไรก็ดี เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส ต้องเจอปัญหาหนักในสภาพทีม เมื่อขาดนักเตะกำลังหลักที่บาดเจ็บเพียบ

เวนเกอร์ ต้องอดใช้งาน เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมอย่างแน่นอน โดยแรกทีเดียว เวนเกอร์ แย้มว่า มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนมีโอกาส 50-50 ที่จะฟิตทันเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เวนเกอร์ ได้ยืนยันว่า ฟาเบรกาส จะไม่ได้มีส่วนร่วมกับศึกใหญ่นัดนี้ด้วย

นอกจากนี้ เวนเกอร์ ยังต้องรอเช็กความฟิตของ อารอน แรมซี่ย์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติเวลส์ที่เจ็บจากเกมกลางสัปดาห์ด้วย ส่วน โทมัส โรซิชกี้ ต้องรออีกสักระยะ หลังเพิ่งกลับมาซ้อมได้

ธีโอ วัลค็อตต์ ปีกทีมชาติอังกฤษ ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บแผ่นหลังต่อไป เช่นเดียวกับพวกที่เดี้ยงอยู่อย่าง โยฮัน ฌูรู, ซามีร์ นาสรี่, ลูคัส ฟาเบียนสกี้ และล่าสุดคือ คาร์ลอส เวล่า ที่เจ็บข้อเท้าไปอีกคน ต้องพัก 2-3 สัปดาห์

การจัดทัพในเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเกมถลุง เซลติก แต่ก็จะมีการปรับแนวรุก ที่ เวนเกอร์ สั่งพักตัวหลักเอาไว้

อังเดร อาร์ชาวิน หอกรัสเซียน ที่ลงมาเป็นสำรองพร้อมยิงประตู 3-0 จะกลับมาทวงตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง รวมถึง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงดัตช์ ที่ไม่ได้ถูกใช้งานเมื่อกลางสัปดาห์ ซึ่งเท่ากับ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา หอกโครแอตที่พุ่งล้มเรียกจุดโทษ จะต้องถอยไปนั่งสำรองอีกครั้ง

ทีมปืนโตใช้ 4-3-3 นายทวารเป็น มานูเอล อัลมูเนีย แนวรับใช้ บาการี่ ซาญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น และ กาแอล กลิชี่ กลางสามตัวใช้ อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน และ อาบู ดิยาบี้ ส่วนสามประสานแดนหน้าเป็น อังเดร อาร์ชาวิน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ นิคลาส เบนท์เนอร์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เบน ฟอสเตอร์ - แกรี่ เนวิลล์, เวส บราวน์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน, นานี่ - เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

อาร์เซน่อล (4-3-3) : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซาญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ - อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้ - อังเดร อาร์ชาวิน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, นิคลาส เบนท์เนอร์

ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

ฮาร์กรีฟส์กลับรังผีเดือนกันยายน

โอเว่น ฮาร์กรีฟส์(Owen Hargreaves)

โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมกลับสโมสรในช่วงเดือนกันยายนนี้ หลังเดินทาง
ไปรักษาเข่าที่สหรัฐฯ ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ปีศาจแดง" เผยมีการติดต่อกับลูกทีมอยู่ตลอด พร้อมรับต้องอาศัยเวลาก่อนที่นักเตะจะกลับมาฝึกซ้อมได้อีกครั้ง หลังเจ็บไปนานเป็นปี

โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ มิดฟิลด์ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก เตรียมกลับมายังต้นสังกัดในช่วงเดือนกันยายนนี้ หลังจากที่เดินทางไปเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าที่ประเทศสหรัฐฯ จากการรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ลงเล่นนัดล่าสุดให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ดาวเตะวัย 28 ปีจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 2 ครั้งเพื่อรักษาอาการเจ็บเข่าที่เรื้อรังมานาน นับตั้งแต่ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมแห่งเยอรมัน มาร่วมถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2007

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จะประเมินสภาพความฟิตของกองกลางทีมชาติอังกฤษ เมื่อนักเตะเดินทางกลับมาถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันที่ 23 กันยายนนี้

แค่ข่าวลือ เฟอร์กี้บอกทะเลาะแอนเดอร์สัน

แอนเดอร์สัน - เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Anderson - Sir Alex Ferguson)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้ว่า บาดหมางกับ แอนเดอร์สัน กองกลางดาวรุ่งของทีม ทั้งนี้เนื่องจาก "หนูแอน" ไม่พอใจที่ไม่ได้รับโฮกาสให้ลงเล่น แถมยังหลุดจากทีมในเกม คอมมูนิตี้ ชิลด์ เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน

ล่าสุดขรัวเฒ่าลูกหนังเลือดสก็อตต์ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวเป็นอะไรที่ไร้สาระสิ้นดี พร้อมออกโรงปกป้องดาวเตะวัย 21 มีความเป็นมืออาชีพพอ

"ผมทราบข่าวดังกล่าว มันน่าขำสิ้นดี เรื่องที่เขาไม่ได้ลงเล่นน่ะคือความจริง แต่ที่ว่าเขาระหองระแหงกับผมมันไร้สาระ ผมไม่แคร์ว่าใครจะพูดเช่นไร เขามีความเป็นมืออาชีพ เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อเกิดประเด็นใดๆ ผู้คนก็จะพยายามโยงข่าวเข้าด้วยกัน" เซอร์ อเล็กซ์ กล่าว

ผี,หงส์อกหักร็อบเบนเลือกเสือ

อาร์เยน ร็อบเบน(Arjen Robben)

หลังการตัดสินใจย้ายทีมแบบรวดเร็วแบบสายฟ้าแลบจาก เรอัล มาดริด ไปร่วมทีมบาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร ของ อาร์เยน ร็อบเบน ทำให้ทีมที่แอบเหล่ปีกดัตช์ก่อนหน้านี้ต้องรับประทานแห้วไปตามๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือว่าลิเวอร์พูล

ก่อนหน้านี้ร็อบเบน ปีกทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ตกเป็นข่าวกับสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษทั้งปีศาจแดงและหงส์แดง ที่เล็งอยากได้ดาวเตะดัตช์คนนี้มาเสริมทัพ แต่ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ร็อบเบนก็เลือกย้ายไปหาประสบการณ์ในบุนเดสลีกากับบาเยิร์นแทน หลังเคยเล่นในพรีเมียร์ลีกกับเชลซีมาแล้ว

แมนฯ ยูฯ อยากได้ร็อบเบนไปแทนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายไป เรอัล มาดริด มาโดยตลอด และตกเป็นข่าวร็อบเบนมานาน แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง รวมทั้งลิเวอร์พูลที่ตกเป็นข่าวอยากได้ร็อบเบนเช่นกันหลังออกสตาร์ตแย่ในศึก พรีเมียร์ลีก และพร้อมดึงร็อบเบนมาลากเลื้อยและขาย ไรอัน บาเบิล ปีกดัตช์อีกคนเป็นทุน แต่ทุกอย่างก็ไม่ทันเสือปืนไวอย่างบาเยิร์นเสียแล้ว

ท่านเซอร์รับปีศาจแดงอ้วกบินไกลบ้าน

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน(Sir Alex Ferguson)

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด รับหนักใจใช่เล่น กับการพา "ผีแดง" บุกไปเยือน เบซิคตัส และ ซีเอสเคเอ มอสโก 2 คู่แข่งร่วมกลุ่ม บี ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่อีกหนึ่งเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง โวล์ฟสบวร์ก ก็แข็งแกร่งไม่ธรรมดาเช่นกัน

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับ รู้สึกหนักใจกับการนำพลพรรค "ปีศาจแดง" บุกไปเยือน เบซิคตัส แชมป์ลีกตุรกี และ ซีเอสเคเอ มอสโก ทีมแกร่งของรัสเซีย หลังทั้งหมดถูกจับมาอยู่ร่วมกลุ่ม บี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งมีการแบ่งสายกันไป เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่ราชรัฐโมนาโก

นอกจาก เบซิคตัส ซึ่งเพิ่งคว้าแชมป์ลีกแดนไก่งวงได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี เมื่อฤดูกาลก่อน และ ซีเอสเคเอ มอสโก รองแชมป์ลีก และแชมป์ฟุตบอลถ้วยแดนหมีขาว แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต้องเผชิญหน้ากับ เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน ซีซั่นล่าสุด ซึ่ง เฟอร์กี้ มองว่า จะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวอีกหนึ่งรายด้วยเช่นกัน

เฟอร์กูสัน กล่าวว่า "นี่เป็นการแข่งขันที่หินมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมที่เราจะต้องเดินทางไปยังรัสเซีย และตุรกี ซีเอสเคเอ พัฒนาขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งตลอดช่วง 2-3 ปีหลังสุด ขณะที่เกมในตุรกีมักจะเป็นเกมที่หนักหนาสาหัสเสมอ นอกจากนี้ เรายังรู้ถึงคุณภาพที่เราจะได้พบในเกมกับ โวล์ฟสบวร์ก รวมทั้งสิ่งที่พวกเขาประสบความสำเร็จใน บุนเดสลีกา เมื่อฤดูกาลที่อีกด้วย

กาก้าหยันผีหมดลุ้น หวั่นสิงห์

กาก้า(Kaka)

กาก้า เพลย์เมกเกอร์ระดับเทพของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ออกโรงวิจารณ์ทีมคู่แข่งบิ๊กโฟร์จากเมืองผู้ดี ในการล่าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยฟันธง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าหมดน้ำยา หลังจากเสียสตาร์ดังไปจากทีม สวนทางกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่มีการเล่นที่สม่ำเสมอขึ้นมากจากกุนซือคนใหม่ ทำให้เป็นทีมที่น่ากลัวที่สุด

กาก้า ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติบราซิลของ เรอัล มาดริด มหาอำนาจลูกหนังแดนกระทิง ออกความเห็นเกี่ยวกับทีมจากอังกฤษทั้ง 4 ที่เป็นคู่แข่งในการลุ้นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ โดยเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์เมืองผู้ดี มีขุมกำลังที่อ่อนลงจากการเสียนักเตะคนสำคัญ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ เชลซี เป็นทีมที่น่าจับตาที่สุดจากอังกฤษแทน

มิดฟิลด์วัย 27 ปี ที่กำลังเตรียมไล่ล่าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 10 ให้กับทีม "ราชันชุดขาว" กล่าวเกี่ยวกับคู่แข่งจาก อังกฤษ ว่า "ทีมจากอังกฤษหลายทีมเสียนักเตะคนสำคัญๆ ไป ในขณะที่ทีมจากสเปน ต่างเก็บนักเตะระดับท็อปไว้ได้ และเสริมทีมด้วยผู้เล่นที่ดีที่สุดในยุโรป ด้วยทีมที่ มาดริด มีตอนนี้ การเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่แชมป์ยุโรปมันไม่ดีพออย่างแน่นอน"

"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียนักเตะคนสำคัญไป (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเวซ) และพวกเขาก็แย่กว่าในฤดูกาลก่อนอย่างเห็นได้ชัด แต่ทีมอย่างเชลซี ที่อาจไม่ได้เล่นฟุตบอลที่น่าตื่นเต้น แต่พวกเขาก็มีฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดทีมหนึ่ง จากการคุมทีมของกุนซือคนปัจจุบัน (คาร์โล อันเชลอตติ) ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่น่ากลัวที่สุดจากอังกฤษ"

"นอกจากนั้น ผมยังชอบดูการเล่นของ อาร์เซน่อล มาก และมันคงจะดีมากหากทีมที่เล่นฟุตบอลด้วยสไตล์นี้สามารถคว้าแชมป์ได้บ้าง เพราะพวกเขาไม่ได้มันมาหลายปีแล้ว ส่วน ลิเวอร์พูล ก็ไม่ใช่ทีมที่จะเล่นด้วยง่ายๆ ผมเคยเจอเกมต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กับพวกเขาสมัยผมอยู่กับ มิลาน และพวกเขาเป็นทีมที่เหมาะสมกับสไตล์ฟุตบอลยุโรปด้วย" กาก้า กล่าว

เฟอร์กี้กลุ้มใจผีเจอสายแข็งศึกแชมเปี้ยนลีก

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมแกร่งแห่งเวทีพรีเมียร์ ลีก ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) อดีตแชมป์ ยูฟ่า คัพ, เบซิคตัส (ตุรกี) และ โวล์ฟส์บวร์ก (เยอรมัน) แชมป์ บุนเดสลีกา ปีที่ผ่านมา ทำให้ เฟอร์กี้ นายใหญ่ "ผีแดง" ออกมาแสดงอาการหนักใจไม่น้อย

"เป็นงานที่ยากไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปเยือน รัสเซีย และ ตุรกี ซีเอสเคเอ เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและการลงเล่นใน ตุรกี ใครๆ ก็รู้ว่าหนักเสมอ นอกจากนี้ยังมี โวล์ฟส์บวร์ก ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นใน บุนเดสลีกา อีกด้วย เราคงต้องทำงานกันอย่างหนักและมีการวางแผนการเล่นที่รัดกุมด้วย" เฟอร์กี้ กล่าว

แมนฯยูยันริโอฟิตทันนัดฉะไก่แน่!

ริโอ เฟอร์ดินานด์(Rio Ferdinand)

ข่าวดีสำหรับสาวกผีแดงเมื่อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังตัวเก่งของสโมสรฟุตบอล"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะหายทันกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ในนัดที่พบกับสเปอร์ส

หลังจากที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังตัวเก่งของสโมสรฟุตบอล"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับบาดเจ็บขณะฝึกซ้อมก่อนเกมที่จะลงสนามพบ เบอร์มิ่งแฮม และคงต้องใช้เวลาพักรักษาอาการบาดเจ็บนานร่วมเดือนนั้น ล่าสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ"สกาย สปอร์ต"สื่อเมืองผู้ดีว่า

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังวัย 30 ปีรายนี้จะหายทันกลับมาลงสนามได้แน่ในนัดที่จะพบกับ"ไก่เดือยทอง"ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในวันเสาร์ที่ 12 กันยายน แต่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ จะอดลงสนามช่วยทีมชาติอังกฤษ ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่"สิงโตคำราม"อังกฤษ จะลงสนามพบกับ"ตาหมากรุก"โครเอเชีย ในวันพุธที่ 9 กันยายนนี้

ผีแดงทุ่ม!26ล้านปอนด์คว้าร็อบเบนคืนรังผู้ดี

อาร์เยน ร็อบเบน(Arjen Robben)

ก่อนหน้านี้มีข่าวรายงานว่า"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ "ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งร่วมเมืองเปิดศึกแย่งคว้าตัว อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตีนจรวดดีกรีทีมชาติฮอลแลนด์ของสโมสรฟุตบอล"ราชันชุดขาว"รีล มาดริด ทีมชั้นนำจากศึกลาลีก้า สเปน ล่าสุดสโมสรฟุตบอล"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จัดการควัก 26 ล้านปอนด์หรือประมาณ 1,456 ล้านบาท ยื่นให้กับ"ราชันชุดขาว"รีล มาดริด พิจารณาปล่อยตัว อาร์เยน ร็อบเบน อดีตเด็กเก่า เชลซี กลับมาคืนรังผู้ดีอีกครั้ง

สำหรับ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตีนจรวดวัย 26 ปีดีกรีทีมชาติฮอลแลนด์รายนี้ แมนฯยู เคยยื่นซื้อตัวกับสโมสรพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาแล้วเมื่อปี 2004 แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อ ร็อบเบน เลือกซบ เชลซี แทน ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์(ราว 670 ล้านบาท) ต่อมาเมื่อปี 2007 อาร์เยน ร็อบเบน ย้ายจาก เชลซี มาค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของ รีล มาดริด ด้วยค่าตัว 36 ล้านยูโรหรือประมาณ 1,728 ล้านบาท

เวนเกอร์แนะปืนลับแข้งกับเซลติกก่อนดวลผี

อาร์แซน เวนเกอร์ (Arsene Wenger)
อาร์เซน่อล มีโปรแกรมลงฟาดแข้งกับ กลาสโกว์ เซลติก ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดสอง ในคืนวันพุธนี้ ก่อนที่จะออกไปเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ แมนฯยู ในวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่ง นายใหญ่เลือดน้ำหอมได้ออกมากำชับลูกทีมห้ามประมาทโดยเด็ดขาด

"เกมกับ เซลติก ถือเป็นเกมที่สำคัญมากกว่าวันเสาร์นี้ เราต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ ต้องวางแผนระบบการเล่นและแท็กติกต่างๆ ให้รัดกุม ส่วนเกมกับ แมนฯยู นั่นหากแพ้ก็สามารถไล่ตามได้ทัน เนื่องจากยังเหลืออีก 35 นัด แต่ถ้าพ่าย เซลติก ก็เป็นศูนย์ เพราะเราตั้งใจที่เข้าไปเล่น ยูฟา แชมเปียนส์ ลี ดังนั้นนี่คือเกมที่ยิ่งใหญ่มาก" เวนเกอร์ กล่าวย้ำ

สื่อเผย!คาเปลโล่ยังไม่สนโอเว่นติดธงอังกฤษ

ไมเคิ่ล โอเว่น(Michael Owen)

"เดลี่เมล์"สื่อเมืองผู้ดีออกมาเผย ไมเคิ่ล โอเว่น กองหน้าร่างเล็กของ"ผีแดง"แมนฯยู ที่เพิ่งยิงประตูแรกอย่างเป็นทางการในเกมชนะวีแกน 5:0 ก็อาจจะไม่ติดทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การคุมทัพของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ได้ ซึ่งฟอร์มยังไม่เข้าตา โดยที่อังกฤษ มีคิวลงเตะอุ่นเครื่องกับสโลเวเนีย วันที่ 5 กันยายน และทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกพบกับโครเอเชีย ในวัน 9 กันยายน

ทั้งนี้กองหน้าตัวหลักที่ คาเปลโล่ เรียกติดทีมแน่นอนในเวลานี้คือ เวนย์ รูนีย์ จากค่าย"ผีแดง"และ เจอร์แมน เดโฟ ดาวยิงสเปอร์ส ส่วนคนอื่นๆ นั้น มี คาร์ลตัน โคล ของเวสต์แฮม และ เอมิล เฮสกี จอมเก๋าของแอสตัน วิลล่า เป็นตัวสำรอง

อย่างไรก็ตาม โอเว่น ก็ยังมีลุ้นที่จะสอดแทรกเข้าแคมป์สิงโตคำรามได้ หากวันเสาร์นี้โชว์ฟอร์มเข้าตา เพราะว่า คาเปลโล่ จะเข้าชมเกมระหว่างปีศาจแดง กับ อาร์เซน่อล นั่นเอง

ผียิ้มริโออาจคัมแบ็กดวลเรือใบ

ริโอ เฟอร์ดินานด์(Rio Ferdinand)

สาวก "ผีแดง" พอยิ้มออก เมื่อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟจอมคลาสสิก น่าจะฟิตกลับมาลงช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด ทันเกมดาร์บี้แมตช์ กับ แมนฯ ซิตี้ กลางเดือนหน้า หลังอาการบาดเจ็บต้นขากำลังดีวันดีคืน

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังจอมแกร่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะฟิตกลับมารับใช้ต้นสังกัดได้ทันเกมดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน ตามรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ "เดลี่ มิร์เรอร์" ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

เฟอร์ดินานด์ มีปัญหาบาดเจ็บบริเวณต้นขา และจะหมดสิทธิ์ลงช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมเปิดบ้านรับมือ อาร์เซน่อล วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม รวมทั้งเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับ โครเอเชีย วันพุธที่ 9 กันยายน อย่างแน่นอนแล้ว

ส่วนเกมที่ "ปีศาจแดง" จะยกพลบุกไปเยือนรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในวันเสาร์ที่ 12 กันยายน ก็ดูเหมือนจะยังเร็วเกินไปที่ ริโอ จะหวนคืนสนาม อย่างไรก็ตาม สำหรับเกมรับมือ แมนฯ ซิตี้ ในอีก 8 วันให้หลัง เชื่อว่ากองหลังทีมชาติอังกฤษ น่าจะฟิตกลับมาลงเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา

วิดิชรอด ไม่โดนเอฟเอแบน

เนมานย่า วิดิช(Nemanja Vidic)
เนมานย่า วิดิช กองหลังตัวเก่ง"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชคดีรอดตัวไม่โดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) สั่งลงโทษจากกรณีที่ดาวเตะทีมชาติเซอร์เบีย มีปัญหากับ ฮูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าของวีแกน แอธเลติก ในเกมลีกนัดที่บุกชนะ 5-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา หลัง ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวตัดสินใจยกประโยชน์ให้จำเลยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในเกมนั้น วิดิช ฟิวส์ขาดอัด โรดาเยก้า เข้าที่ใบหน้า โดยคณะกรรมการพิจารณาด้านวินัยของเอฟเอ ได้ขอให้ เว็บบ์ ลองดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากเทปอีกครั้ง ก่อนที่เปาชื่อดังแดนผู้ดีจะรายงานกลับมาว่าตนไม่เห็นเหตุการณ์ที่นักเตะ ทั้ง 2 คนมีปัญหากัน แต่เชื่อว่าภาพเหตุการณ์ทางโทรทัศน์นั้นยังไม่ชัดเจนพอ ซึ่งทำให้ วิดิช จะได้ลงเตะกับอาร์เซน่อล ในวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมนี้

แอนเดอร์สันเครียดท่านเซอร์จ่อโละพ้นทีม

แอนเดอร์สัน (Anderson)
"เดลีย์ เมล์" สื่อชั้นนำเมืองผู้ดีรายงานว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชักหมดความอดทนกับ แอนเดอร์สัน กองกลางวัย 21 ปี ที่ยังโชว์ฟอร์มไม่เอาอ่าวนับตั้งแต่ฤดูกาลใหม่ (2009/10) เปิดฉากขึ้น

แหล่งข่าวระบุเพิ่มเติมว่า นายใหญ่ทัพ "ผีแดง" ไม่ปลื้มกับฟอร์มของมิดฟิลด์สตาร์บราซิเลียน มาตั้งแต่นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่พ่ายให้ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ตั้งแต่เมื่อฤดูกาลก่อน ส่งผลให้เจ้าตัวไม่ติดโผลงเตะ คอมมูนิตี้ ชิลด์ กับ "สิงห์บลูส์" เชลซี เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมอีกด้วย ทั้งนี้ ดาวเตะผิวสียังยิงประตูอย่างเป็นทางการให้ "ผีแดง" ไม่ได้เลยตลอดการลงสนาม 77 นัดช่วง 2 ปีมานี้

วิดิชยันฝากอนาคตไว้กับผีแดง

เนมานย่า วิดิช (Nemanja Vidic)
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า เปาโล แฟบบรี เอเย่นต์ส่วนตัวของ วิดิช ออกมากล่าวว่าลูกค้าของตนมีความใฝ่ฝันอยากย้ายไปค้าแข้งกับแชมป์ลาลีกา สเปน แต่ล่าสุด ดาวเตะชาวเซิร์บได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวพร้อมยืนยันต้องการอยู่ "ผีแดง" ต่อไป

"ผมไม่เคยพูดถึงอนาคตของตัวเองเลย แต่เป็นคนอื่นที่มักจะพูดถึงผมกับบาร์เซโลนา, รีล มาดริด, เอซี มิลาน หรือสโมสรอื่น ผมเชื่อว่าแฟนบอลของยูไนเต็ดหรือนักเตะจะต้องได้เห็นแต่เพียงว่าผมทุ่มเทให้ ทีมอย่างเต็มร้อย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะหากสโมสรได้ยินข่าวลือพวกนั้น ผมอยู่ที่นี่และจะยังคงอยู่ต่อไป ผมจะแสดงให้เห็นสิ่งนั้นในการเล่นสนามอีกหลายแมตช์ข้างหน้า" ปราการหลังวัย 27 ปีกล่าว

วิดิชซวย!จ่อโดนแบน ปัญหาตบหน้าโรดาเยก้า

เนมานย่า วิดิช (Nemanja Vidic)

เนมานย่า วิดิช ปราการหลังชาวเซอร์เบีย ของแมนฯยู อาจต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อล่าสุดมีรายงานว่า เขากำลังเสี่ยงที่จะโดนแบนห้ามลงทำการแข่งขัน ถ้าหากโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ(เอฟเอ) ตัดสินว่าผิดจริง ในกรณีที่ไปเล่นนอกเกมใส่ ฮูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าชาวโคลอมเบียของ วีแกน แอธเลติก ในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ในเกมดังกล่าวช่วงครึ่งหลัง กล้องจับภาพได้ว่า วิดิซ ไปตบหน้าของ โรดาเยก้า หลังจากจังหวะที่หัวหอกโคลัมเบีย เข้าไปปะทะกับ เบน ฟอสเตอร์ นายทวารของทีมแมนยู แม้ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ควบคุมเกม จะมองไม่เห็น แต่ว่า ทางเอฟเอ เตรียมมอบวีดีโอเทปบันทึกจังหวะดังกล่าว ให้กับ เว็บบ์ ได้พิจารณา

ซึ่งถ้าหากพบว่าผิดจริง วิดิช ก็อาจจะต้องโดนโทษห้ามลงทำการแข่งขันเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน คู่กรณีของ วิดิช อย่าง โรดาเยก้า นั้นก็อาจจะโดนสมาคมฟุตบอลผู้ดี ลงดาบด้วยเช่นกัน จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ด้วยการไม่ยอมรับคำตัดสินของ เว็บบ์

ถ้าหากว่า วิดิซ ต้องโดนโทษแบนจากเอฟเอจริง จะส่งผลให้เขาหมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมพรีเมียร์ ลีก นัดบิ๊กแมตช์ ในสัปดาห์หน้าที่ทีมแมนฯยู จะเปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการเยือนของอาร์เซน่อล ในวันเสาร์หน้าทันที โดยคาดว่า เอฟเอ จะมีการประกาศบทลงโทษออกมาภายในสัปดาห์นี้

ผีจ่อจับรูนี่ย์ปรับสัญญารับค่าเหนื่อย8.4 ล้านต่อวีก

เวย์น รูนี่ย์(Wayne Rooney)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมตบรางวัล เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงตัวเก่งของทีมด้วยการปรับปรุงสัญาค้าแข้งให้ ด้วยการเพิ่มค่าเหนื่อย จากเดิมที่เจ้าตัวรับอยู่ 105,000 ปอนด์ (ราว 5.8 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ เป็น 150,000 ปอนด์ (ราว 8.4 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ เทียบเท่านักเตะค่าเหนื่อยสูงๆ อย่าง จอห์น เทอร์รี่, โรบินโญ่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ คาร์ลอส เตเวซ

ภายหลังการจากไปของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า รูนี่ย์ คือนักเตะที่สำคัญที่สุดของทัพ "ปีศาจแดง" และด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น บอร์ดบริหารของ แมนยู พิจารณาเห็นควรว่าน่าจะผลักดันให้ รูนี่ย์ ก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์แบบเต็มตัว

ลือผีต่อสัญญารูนให้สมคุณค่า

ลือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมตบรางวัลให้ เวย์น รูนี่ย์ ด้วยสัญญาใหม่ฉบับปรุงปรุง เพื่อไม่ให้น้อยหน้าดาวดังทีมอื่น อย่าง จอห์น เทอร์รี่ หรือ คาร์ลอส เตเวซ ที่คาดว่ารับเบาะๆ กับต้นสังกัดกว่า 150,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์

รูนี่ย์ ก้าวขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ของ "เร้ด เดวิลส์" แบบเต็มตัวชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อไร้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ล่าสุดกด 2 เม็ดช่วยต้นสังกัดบุกไปถล่ม "เดอะ ลาติกส์" วีแกน แอธเลติก 5-0 เกมพรีเมียร์ลีก ที่สนาม ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ซีซั่นใหม่ยิงไป 3 เม็ด (ไม่นับ 1 ลูกในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์) รวมยิงให้ทีม 101 ลูกแล้ว

สัญญาฉบับปัจจุบันของ รูนี่ย์ มีอายุเหลืออีก 3 ปี คาดว่าเขารับทรัพย์อยู่ที่ตัวเลข 105,000 ปอนด์ (ราว 5.8 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ แต่เบื้องบนใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คิดว่า รูนี่ย์ของพวกเขา คู่ควรต่อการเป็นหนึ่งในนักเตะค่าแรงแพงเท่าสตาร์ดังอย่าง จอห์น เทอร์รี่ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ของ เชลซี และ เตเวซ, โรบินโญ่ และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คาดว่ามีค่าเหนื่อย 150,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม การเจรจาเรื่องสัญญาใหม่ของ รูนี่ย์ น่าจะต้องรอช่วงปลายปี ซึ่งตอนนั้น พอล สเตรทฟอร์ด เอเยนต์คู่ใจ จะพ้นโทษแบนจากทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ)

รูนี่ย์ภูมิใจกดเกินร้อยให้ผีแดง

เวย์น รูนี่ย์(Wayne Rooney)

เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงร่างตันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับรู้สึกเป็นเกียรติที่สังหารประตูให้ทีมเกิน 100 ลูกได้สำเร็จ แต่ย้ำจะไม่เสียเวลาใส่ใจกับเรื่องนี้มากเกินไป และขอมุ่งมั่นกับเกมที่รออยู่ข้างหน้า เพื่อทำประตูให้มากยิ่งขึ้น ขณะที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ปีศาจแดง" ซูฮกเล่นได้เยี่ยมสุดๆจนกลายเป็นนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด คนที่ 21 ที่ยิงเกินหลักร้อยได้

เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาลหลังสุด ยอมรับ รู้สึกปลื้มสุดๆ ที่สามารถสังหารลูกที่ 100 และ 101 ในการเล่นกับทัพ "ปีศาจแดง" ได้สำเร็จ ในเกมที่บุกไปถล่ม วีแกน แอธเลติก คาถิ่นดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม 5-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา

ดาวยิงวัย 23 ปี กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 20 ในประวัติศาสตร์ของถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่สามารถยิงได้ 100 ประตู แต่เจ้าตัวยืนยันว่าจะไม่เสียเวลากับมันมากไป "แน่นอนว่ามันรู้สึกดีมากที่ยิงประตูที่ 100 ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด มันเป็นบางสิ่งที่ผมมองย้อนกลับมาได้เวลาที่ผมเลิกเล่นไปแล้ว แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องสนใจมากนักในตอนนี้ เพราะผมยังมีเกมที่ต้องเล่น และประตูที่ต้องยิงอีกมาก"

2 ประตูจากเกมล่าสุด ทำให้รูนี่ย์ ยิงไปแล้ว 4 ประตู ตั้งแต่เปิดฤดูกาลใหม่ โดยอดีตเด็กปั้นเอฟเวอร์ตัน ยอมรับว่าเขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี และพอใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมถึงจะพลาดท่าพ่าย เบิร์นลี่ย์ ทีมน้องใหม่ 1-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาก็ตาม

"ผมสนุกกับการเล่นฟุตบอลของผม และเราก็กำลังเล่นกันได้ดี แน่นอนว่าผมผิดหวังกับผลการแข่งขันที่ เบิร์นลี่ย์ แต่เราจำเป็นต้องก้าวต่อไป และขอบคุณจริงๆ ที่เราสามารถทำได้ หลังจากเราแสดงให้เห็นว่าเราทำได้ดีแค่ไหนในวันนี้ (กับ วีแกน)" ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ กล่าวปิดท้าย

โอเว่นยิ้มซัดลูกแรกให้ผี

ไมเคิ่ล โอเว่น(Michael Owen)

"เบบี้ โกล์" ไมเคิ่ล โอเว่น ดาวยิงคนใหม่แมนฯ ยูไนเต็ดปลาบปลื้มสุดๆ กับประตูแรกอย่างเป็นทางการที่ทำได้หลังจากย้ายมาเล่นให้ "เร้ด เดวิลส์" บอกแม้ช่วงปรีซีซั่นจะยิ่งได้แล้วแต่กับเกมทางการมันเป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ พร้อมประกาศประตูที่สอง,สาม,สี่ ของตนกับ"ปีศาจแดง" จะเดินทางมาถึงอย่างต่อเนื่องนับจากนี้แน่นอน

ไมเคิ่ล โอเว่น ศูนย์หน้าชื่อดังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายอมรับว่ารู้สึกโล่งใจที่สามารถยิงประตูแรกในศึกพรีเมียร์ลีกภายใต้สี เสื้อของ "ปีศาจแดง" ได้สำเร็จ ในเกมบุกถล่ม วีแกน แอธเลติก คาถิ่นดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม 5-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา

หัวหอกวัย 29 ปี ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 71 ก่อนจะทำประตูได้ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน 5 นาที กล่าวว่า "ผมเพิ่งทำประตูจากโอกาสที่ยากที่สุดที่ผมเคยมี ผมมีโอกาส 2 ครั้งที่ เบิร์นลี่ย์ และครั้งหนึ่งที่ เบอร์มิงแฮม และนี่เป็นโอกาสครั้งที่ 4 ของผม บางที่นี่อาจจะเป็นการฉวยโอกาสที่ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมาก็ได้"

"ในช่วงปรี-ซีซั่น ผมไม่เคยคิดว่าผมจะพลาด แต่ผมพลาดไป 2 ครั้งตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา และทุกคนก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในทันที ราวกับผมทำประตูไม่ได้มา 2 ปียังไงยังงั้น! มันเป็นสิ่งที่ผมต้องรับมือ และผมไม่คิดว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจนกว่าที่ผมจะแขวนสตั๊ด"

โอเว่น ยังกล่าวในเว็บไซต์ของสโมสรอีกว่า "นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องรับมือมาตลอด 10 ปี และผมไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนไป จนกว่าผมจะแขวนสตั๊ด มันเป็นความรู้สึกยอดเยี่ยมมากที่ทำประตูได้ ผมทำได้ 2-3 ประตูในช่วงปรี-ซีซั่น แต่มันไม่ดีเท่ากับการทำได้ในแมตช์การแข่งขันจริงๆ"

อดีตกองหน้านิวคาสเซิ่ล, เรอัล มาดริด และลิเวอร์พูล ยังเชื่อว่า เขาจะทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มากกว่านี้อีก "ผมคงจะผิดหวังถ้าหลายคนไม่คิดว่าผมสามารถทำได้ดีขึ้นกว่านี้ ผมเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้อย่างที่แสดงให้เห็นมาตลอดอาชีพค้าแข้งของผม และผมคาดหวังว่าจะยิงประตูในเสื้อสีแดงตัวนี้ได้มากกว่านี้"

ท่านเซอร์ยิ้ม! แข้งผีคืนฟอร์มต้อนวีแกน

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน(Sir Alex Ferguson)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มเยี่ยมสำหรับเกมพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา จากการบุกถล่ม วีแกน แอธเลติก ขาดลอย 5:0 หลังจบเกม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของทีมได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

"เรากลับมาเล่นได้ในฟอรืมสุดยอดอีกครั้ง หลายคนบอกว่าเราเป๋และไม่ใช่ ยูไนเต็ด ที่น่ากลัวอีกหลังบุกไปพ่าย เบิร์นลีย์ เมื่อกลางสัปดาห์ นั่นมันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้เสมอๆ ในเกมลูกหนัง นัดนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นและตอบทุกข้อสงสัยจากการเล่นด้วยฟอร์มยอดเยี่มม ของเราเอง" เซอร์ อเล็กซ์ กล่าว

นอกจากนี้ เซอร์ อเล็กซ์ ยังได้กล่าวชมผู้เล่นตำแหน่งกองหน้า ไม่ว่าจะเป็น ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนี่ย์ และ ไมเคิ่ล โอเว่น ว่าสามารถเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ รูนี่ย์ ที่ซัด ครบ 100 ประตูให้ทีม ในส่วนของ โอเว่น เซอร์ อเล็กซ์ เชื่อว่าการทำประตูแรกในเกมพรีเมียร์ ลีก ได้จะเป็นการเรียกความมั่นใจให้ดาวยิงวัย 29 กลับเล่นในฟอร์มร้อนแรงอีกครั้ง

ปาร์ค ลังเลเจรจาสัญญาฉบับใหม่

ปาร์ค จี ซอง(Park Ji-sung)
ปาร์ค จี ซอง ดาวเตะเลือดโสมวัย 26 ปี สังกัดสโมสรฟุตบอล"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังลังเลในการเซ็นต่อสัญญาฉบับใหม่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดย ปาร์ค จี ซอง เรียกร้องต้นสังกัด(แมนฯยู)ขยายเวลาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ออกไปอีก ซึ่ง ปาร์ค จี ซอง ออกมากล่าวให้สัมภาษณ์ผ่าน"สกาย สปอร์ต"สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของอังกฤษว่า

"หากเงื่อนไขเป็นที่น่าพอใจ การจัดการก็จะสำเร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว มันเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายถึงรายละเอียดข้อเสนอที่อยากบอกได้"อย่างไรก็ ตาม เดวิด กิลล์ ผู้บริหารระดับสูงของ"ผีแดง"มั่นใจดาวเตะเลือดโสมรายนี้จะยังคงอยู่กับทีม ต่อไป ส่วนเรื่องขยายสัญญาค้าแข้งของ ปาร์ค จี ซอง จะจบลงก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

ผีโหดถล่มวีแกน 5-0

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009-10

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2552
วีแกน แอธเลติก 0:5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม (เจเจบี สเตเดี้ยม)
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2009-10 วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม วีแกน แอธเลติก เปิดบ้านรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้านวาง ฮูโก้ โรดาลเยก้า ลงบยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ขณะที่ทีมเยือน หวังแก้ตัวให้ได้หลังพลาดท่าพ่ายทีมรองบ่อนอย่าง เบิร์นลีย์ มาในเกมที่แล้ว เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จับคู่ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

ครึ่งแรก
วีแกน เขี่ยลูกเริ่มเล่นโดยบุกจากขวาไปซ้าย นาทีที่ 2 พอล สโคลส์ สาดยาวจากกลางสนามออกซ้ายให้ เวย์น รูนี่ย์ เปิดข้ามาจะให้ เบอร์บาตอฟ บอลแฉลบกองหลังเจ้าถิ่นเข้ามือ คริส เคิร์กแลนด์

นาทีที่ 4 แมนยู น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เฟล็ทเชอร์ ได้โอกาสแปเน้นๆ ด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษระยะแค่ 2 หลาแต่ไปติดเซฟ คริส เคิร์กแลนด์

นาทีที 8 แมนยู ขึ้นเกมมาทางซ้ายอีกครั้ง บอลตัดเข้ากลาง เบอร์บาตอฟ ดีดด้วยส้นอย่างอาร์ต มาให้ พอล สโคลส์ วิ่งเข้ามาใส่ด้วยขวาเต็มข้อ แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคาน

นาทีที่ 17 เวย์น รูนี่ย์ แต่งบอลจากซ้ายเข้าขวาก่อนกดจากหน้าเขตโทษ บอลแฉลบแนวรับวีแกน ออกหลัง ถัดมา 1 นาที รูนี่ย์ ได้ซัดอีกครั้งในเขตโทษ บอลพุ่งเข้าซอง คริส เคิร์กแลนด์

นาทีที่ 23 แมนยู บุกขึ้นมาทางซ้าย นานี่ เล่นชิ่งกับ เอวร่า ก่อนพาเข้ามาในเขตโทษตักให้ เบอร์บาตอฟ ขึ้นโขกบอลตรงตัว เคิร์กแลนด์

นาทีที่ 25 วีแกน โต้กลับเร็วและเกือบได้ประตู โรดาลเยก้า จ่ายให้ เจสัน คูมาส เตะหนี วิดิช ก่อนปั่นด้วยขวากะให้เสียบเสาไกล เบน ฟอสเตอร์ ต้องพุ่งปัดออกหลัง

นาทีที่ 38 พอล สโคลส์ แทงให้ เฟล็ทเชอร์ กลับตัวยิงอย่างได้ลุ้น บอลแฉลบแนวรับ วีแกน ออกหลัง

เข้าสู่ช่วงท้ายของครึ่งแรก เกมเปิดแลกกันอย่างสนุก ทว่าไม่มีการทำประตู จบเกม 45 นาทีรวมทดเจ้บในครึ่งแรก ยังเสมอกัน 0:0

ครึ่งหลัง
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 47 แมนยู ได้ลูกเตะมุม นานี่ เปิดมาหน้าประตู บอลลึกเข้ามือ คริส เคิร์กแลนด์

วีแกน ได้ลูกฟรีคิก จากการทำฟาวล์ของ เอวร่า ตรงริมเส้นฝั่งขวา บอลเปิดเข้ามาในเขตโทษ พอล ชาร์เนอร์ ขึ้นโขก บอลแฉลบ บรามเบิ้ล ออกหลัง

หลังบุกอยู่นาน นาทีที่ 56 แมนยู ได้ประตูขึ้นนำ 1:0 บอลจากลางออกขวา อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดเข้ามาในเขตโทษ รูนี่ย์ เทคตัวขึ้นโขกส่งบอลกองก้นตาข่าย

1 นาทีถัดมา วีแกน เกือบได้ประตูตีเสมอ โรดาลเยก้า ขึ้นโหนโหม่ง เบน ฟอสเตอร์ ตองโดดปัดออกมา

นาทีที่ 59 บอลจากเบอร์บาตอฟ จ่ายเข้ากลางมาที่ รูนี่ย์ ป้ายคืนหลังให้ พอล สโคลส์ แทงเข้าไปในเขตโทษ เบอร์บาตอฟ ยกข้าม คริส เคิร์กแลนด์ ก่อนเอี้ยวตัวแปะเบาๆ ส่งบอลกองก้นตาข่าย แมนยู ขึ้นนำ 2:0

นาทีที่ 62 วีแกน เปลี่ยนตัวผู้เล่น สก็อตต์ ซินแคลร์ ลงมาเล่นแทน เจสันคูมาส

แมนยู มาได้ประตูนำห่างเป็น 3:0 นาทีที่ 65 อันโตนิโอ วาเลนเซีย ขึ้นเกมมาทางขวา บอลไหลมาที่ เบอร์บาตอฟ จ่ายออกข้างให้ รูนี่ย์ ซัดด้วยขวาบอลแฉลบ เมลคิออท เข้าประตู

นาทีที่ 72 แมนยู เปลี่ยนตัวผู้เล่นรวดเดียว 3 คน! ไมเคิ่ล โอเว่น ลงมาแทน เวย์น รูนี่ย์, ดาร์รอน กิ๊บสัน ลงมาแทน พอล สโคลส์ และ จอห์น โอเชีย ลงมาแทน จอห์นนี่ อีแวนส์

ขณะที่ วีแกน ก็ตัดสินใจใช้โควต้าเปลี่ยนตัวที่เหลือส่ง เจสัน สก็อตต์แลนด์ ลงมาแทน ชาร์ล เอ็น ซ็อกเบีย อีกคนเป็น แมคคาธีย์ ลงมาแทน เดียเม่

นาทีที่ 74 แมนยู ได้ลุ้นอีกครั้ง จากลูกยิงไกลของ ดาร์รอน กิ๊บสัน ทว่าไม่ผ่านมือ คริส เคิร์กแลนด์

นาทีที่ 85 แมนยู นำห่างเป็น 4:0 นานี่ จ่ายไปที่ว่างทางซ้ายให้ ไมเคิ่ล โอเว่น ยิงหักข้อด้วยซ้าย ส่งบอลผ่านมือ เคิร์กแลนด์ เข้าประตูไป เป็นประตูแรกในเกมพรีเมียรืลีก ภายใต้สีเสื้อ "ปีศาจแดง" ของ โอเว่น

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนยู มาได้ลูกฟรีคิก หลุยส์ นานี่ ปั่นบอลข้ามกำแพง ส่งบอลกองก้นตาข่าย แมนยู นำ วีแกน เป็น 5:0 และก็จบเกมไปด้วยสกอร์ดังกล่าว


รายชื่อผู้เล่นตัวจริง

วีแกน แอธเลติก ระบบ 4-5-1 : ผู้รักษาประตูเป็น คริส เคิร์กแลนด์ แนวรับ 4 คนมี เมลคิออท, บรามเบิ้ล, พอล ชาร์เนอร์, ฟิเกรัว กองกลาง ชาลส์ เอ็น ซอกเบีย (เจสัน สก็อตต์แลนด์ น.73), จอร์ดี้ โกเมส, เฮนดรี้ โธมาส, เจสัน คูมาส (สก็อตต์ ซินแคลร์ น.62), มูฮัมเหม็ด เดียเม่ (แมคคาธีย์ น.74) หน้าเป้าเป็น ฮูโก้ โรดาลเยก้า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบบ 4-4-2 : ผู้รักษาประตูเป็น เบน ฟอสเตอร์ แนวรับประกอบไปด้วย จอห์นนี่ อีแวนส์ (จอห์น โอเชีย น.72), เนมานย่า วิดิช, แกรี่ เนวิลล์, ปาทริช เอวร่า กองกลาง หลุยส์ นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคล์ส (ดาร์รอน กิ๊บสัน น.72), อันโตนิโอ วาเลนเซีย แนวรุกเป็น เวย์น รูนี่ย์ (ไมเคิ่ล โอเว่น น.72) จับคู่กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2552
เบอร์มิงแฮม 0:0 สโต๊ค ซิตี้
อาร์เซน่อล 4:1 ปอร์ทสมัธ
ฮัลล์ 1:0 โบลตัน
แมนฯ ซิตี้ 1:0 วูล์ฟแฮมป์ตัน
ซันเดอร์แลนด์ 2:1 แบล็คเบิร์น
วีแกน 0:5 แมนฯ ยูไนเต็ด

ผีแดงเฮวิด้าคัมแบ็คบู๊วีแกน

(Wigan Athletic - Manchester United)

"ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด หวังล้างอายหลังจากนัดกลางสัปดาห์พลาดท่าพ่าย เบิร์นลีย์ มา 0-1 เกมนี้จะได้ เนมานย่า วิดิช หายเจ็บกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง โดยเป็น เวย์น รูนี่ย์ จะยืนหอกคู่กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ส่วน วีแกน แอธเลติก วาง ฮูโก้ โรดาเยก้า เป็นกองหน้าตัวเป้า

พรีเมียร์ลีก 2009/10

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2552

วีแกน แอธเลติก (7) - แมนฯ ยูไนเต็ด (10)

สนาม : ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม, เวลา 21.00 น.

วีแกน แอธเลติก ลงเล่น 2 นัดแรกของพรีเมียร์ลีกได้ผลลัพธ์แบบเซอร์ไพรส์ตลอด นัดแรกบุกไปอัดทีมหัวแถวอย่าง แอสตัน วิลล่า ถึงถิ่น แต่นัดสองกลับมาเฝ้ารังโดนน้องใหม่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส บุกมากำราบเสียดื้อๆ ก่อนที่นัดสามจะเตะกับแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สำหรับความพร้อมล่าสุดก่อนเปิดบ้านรับแชมป์เก่า กุนซือสแปนิช โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ยังต้องลุ้นให้ ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย ปีกชาวฝรั่งเศสพร้อม หลังถูกประเมินความฟิตไว้ที่ 50-50

อดีตดาวเตะนิวคาสเซิ่ล ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจากเกมนัดแรกที่ วิลล่า พาร์ค ซึ่ง เอ็นซ็อกเบีย ผ่านการทดสอบความฟิตลงเล่นได้เมื่ออังคาร ทว่าอาการกลับกำเริบอีก และเวลานี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะพร้อมหรือไม่สำหรับวันเสาร์นี้

ส่วนทาง โอลิวิเย่ร์ กาโป ปีกชาวฝรั่งเศส ยังคงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บเอ็นเข่าจากตอนปรี-ซีซั่นที่ออสเตรีย

ขุมกำลังหลักรายอื่นๆ ต่างพร้อมช่วยทีม มาร์ติเนซ ไม่น่าจะมีการปรับทัพมากมายเมื่อทีมมีตัวเลือกค่อนข้างน้อย นำโดย ฮูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าโคลอมเบียที่ซัดประตูสุดสวยในนัดแรก และยังเคยยิง "ปีศาจแดง" ได้เมื่อซีซั่นก่อนด้วย

เดอะ ลาติกส์ ใช้ระบบ 4-2-3-1 นายทวารเป็น คริส เคิร์กแลนด์ แนวรับมี มาริโอ เมลคิอ็อต, พอล ชาร์เนอร์, ไตตัส บรัมเบิ้ล และ เมย์เนอร์ ฟิเกรัว ตัวตัดเกมเป็น เฮนดรี้ โธมัส กับ ไมเคิ่ล บราวน์ ส่วนถ้า ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย ลงเล่นไม่ได้จะเป็นโอกาสของ สกอตต์ ซินแคลร์ ร่วมด้วย ฆอร์ดี้ โกเมซ กับ เจสัน คูมาส ในแนวรุก ส่วน ฮูโก้ โรดาเยก้า ยืนหน้าเป้า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ 11 สมัย เสียท่าเป็นประเดิมแล้วในเกมเมื่อวันพุธ ที่ออกไปแพ้น้องใหม่ เบิร์นลี่ย์ 0-1 อย่างสุดเซอร์ไพรส์ โดยที่ฟอร์มการเล่นเป็นไปอย่างเลวร้ายสุดๆ ขณะที่ก่อนหน้านี้เฉือนหืด เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 1-0

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือผีแดง เตรียมได้ตัว เนมานย่า วิดิช ปราการหลังคนเหล็กชาวเซิร์บ กลับมาลงสนามให้ทีมในเกมพรีเมียร์ลีกเป็นนัดแรกของฤดูกาลนี้

วิดิช ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าระหว่างการวอร์ม-อัพในเกมปรี-ซีซั่นที่กรุงมิวนิค แต่ตลอด 10 วันที่ผ่านมาสามารถลงซ้อมได้แบบไร้ปัญหา ทำให้เตรียมประจำการในแนวรับ ในช่วงเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะขาด ริโอ เฟอร์ดินานด์ (ต้นขา) ปราการหลังคนสำคัญ ต่ออีกร่วมๆ 1 เดือน

แกรี่ เนวิลล์ แบ็กขวากัปตันทีม เป็นอีกคนที่น่าได้มีส่วนร่วมกับเกมที่ ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม ด้วย

ขณะที่แนวรุก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงบัลแกเรียน น่าจะกลับมาทวงตำแหน่งตัวจริง หลังจากลงสำรองมาเล่นได้วูบวาบท้ายเกมกับเบิร์นลี่ย์ โดย ไมเคิ่ล โอเว่น จะถอยไปเป็นสำรองตามเดิม

ส่วนแดนกลาง น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากชุดที่แพ้ เบิร์นลี่ย์ โดย พอล สโคลส์, นานี่ และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มีลุ้นกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง รวมถึง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกเอกวาดอร์ ที่เตรียมได้เยือนบ้านเก่า

สำหรับ ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กแซมบ้า, เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ นายประตูดัตช์, กาเบรียล โอแบร์กต็อง ปีกชาวฝรั่งเศส และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กลางรับชาวอังกฤษ ยังต้องพักยาวต่อไปหลังเดี้ยงหนัก

ปีศาจแดงยึด 4-4-2 นายทวารเป็น เบน ฟอสเตอร์ แนวรับส่ง แกรี่ เนวิลล์ ลงคุมเกมร่วมกับ จอนนี่ อีแวนส์, เนมานย่า วิดิช และ ปาทริซ เอวร่า แผงกลางมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และ นานี่ ส่วน เวย์น รูนี่ย์ ยืนหน้าคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

รายชื่อผู้เล่น
วีแกน (4-2-3-1):คริส เคิร์กแลนด์ - มาริโอ เมลคิอ็อต, พอล ชาร์เนอร์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, เมย์เนอร์ ฟิเกรัว - เฮนดรี้ โธมัส, ไมเคิ่ล บราวน์ - ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย (สกอตต์ ซินแคลร์), ฆอร์ดี้ โกเมซ, เจสัน คูมาส - ฮูโก้ โรดาเยก้า
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เบน ฟอสเตอร์ - แกรี่ เนวิลล์, จอนนี่ อีแวนส์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, นานี่ - เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

เฟลทมั่นใจดาวรุ่งผีแก้วิกฤต

ดาร์เรน เฟลทเชอร์(Darren Fletcher)

ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มิดฟิลด์จอมขยันของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มั่นใจว่าทีมจะสามารถกลับมาโชว์ฟอร์มเข้าที่เข้าทางได้อีกครั้งอย่างแน่นอน ด้วยการใช้นักเตะดาวรุ่งจากทีมเยาวชนขึ้นมาช่วยทดแทนการสูญเสียนักเตะคน สำคัญไปในฤดูกาลนี้ และทีมก็มีดาวรุ่งคุณภาพคับแก้วอยู่หลายคนที่รอโอกาสอยู่

ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มั่นใจว่า ทีมมีความสามารถมากพอที่จะกระตุ้นตัวเองกลับมา หลังจากความพ่ายแพ้ในนัดล่าสุด ที่โดน เบิร์นลี่ย์ ทีมน้องใหม่ ซัดดับ 1-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมเชื่อด้วยว่า ทีมจะอาศัยการก้าวขึ้นมาของนักเตะดาวรุ่ง แทนที่การเซ็นสัญญาซื้อนักเตะใหม่ด้วยเงินมหาศาล

ทีม "ปีศาจแดง" ต้องเสียนักเตะคนสำคัญไปในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเฉพาะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเวซ อย่างไรก็ตาม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ชาวสกอตแลนด์ ก็ยังคงยืนยันว่า เขาพอใจกับทีมนักเตะที่มีอยู่ในตอนนี้ แม้จะใช้เงินได้อย่างจำกัดในตลาดนักเตะช่วงที่ผ่านมาก็ตาม และต้องการให้นักเตะเรียกจังหวะการเล่นของตัวเองกลับมาให้ได้ในเกมที่ เดฟ วีแลน สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้

ในฤดูกาลที่แล้ว นักเตะดาวรุ่งจากทีมเยาวชนของทีม "เร้ด เดวิลส์" สามารถก้าวขึ้นมาช่วยในทีมชุดใหญ่ได้หลายคนอย่าง เฟเดริโก มาเคด้า, แดนนี่ เวลเบ็ค และ ราฟาเอล ดา ซืลวา ซึ่งทำให้ เฟล็ทเชอร์ คิดว่า ในฤดูกาลนี้จะมีนักเตะดาวรุ่งอีกหลายคนที่จะก้าวขึ้มาแลเสร้างความประทับใจ ซึ่งบางครั้งก็อาจสำคัญกว่าการซื้อนักเตะระดับชั้นนำด้วยเงินมากมาย

ผีเครียด ริโอเจ็บพัก 1 เดือน

ริโอ เฟอร์ดินานด์(Rio Ferdinand)

แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือสกอตต์ ออกโรงยัน ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังคนสำคัญ ต้นขาเดี้ยงต้องพักราว 1 เดือน หลังตอนแรกคาดไว้ว่าจะหมดสิทธิ์ลงเล่นแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น

เฟอร์ดินานด์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ได้รับบาดเจ็บระหว่างลงซ้อม จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถลงสนามในเกม พรีเมียร์ลีก นัดประเดิมฤดูกาล ที่ "ปีศาจแดง" เปิดบ้านเฉือน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ หวุดหวิด 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ผีแดงชวด3แต้ม แพ้เบิร์นลี่1:0

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก กลางสัปดาห์ 2009/10
วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2552
เบิร์นลีย์ 1:0 แมนฯยู

สนาม : เทิร์ฟมัวร์
ผู้ตัดสิน : อลัน ไวท์ลีย์

ครึ่งแรก
เริ่มเกมมาได้ 2 นาที แมนฯยู ได้ลุ้นก่อนเลยจังหวะ เอฟร่า เติมเกมขึ้นมาทางขวาจ่ายเข้ากลางให้ โอเว่น เข้าจิ้มไม่โดนบอลอย่างน่าเสียดาย
ถัดมาอีกนาที โอเว่น เกือบทำประตูขึ้นนำให้ทีมอีกครั้งเมื่อ เอฟร่า จ่ายผ่านมาให้และ โอเว่น ก็ยิงเข้าไปแต่กรรมการยกธงล้ำหน้าไปแล้ว
นาที 9 เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้างจาก เฟล็ทเชอร์ แต่ยิงไม่ตรงเป้าออกหลังไป จากนั้นนาที 11 กองหลังเบิร์นลีย์ จอร์แดน เกือบทำเข้าประตูตัวเองจังหวะสกัดบอลจาก คาร์ริค ถากเสาออกหลัง
นาที 19 เจ้าบ้านเบิร์นลีย์ ได้เฮลั่นสนาม เมื่อ เบล็ค มายิงบอลเล่ย์เต็มข้อเจากการโหม่งซงมาให้ของ จอร์แดน ป็นประตูขึ้นนำให้กับทีมก่อน 1:0
จากนั้นเกมรุกของแมนฯยู ดูไม่น่ากลัวเหมือนในช่วงเริ่มต้นเกม และเป็นทางเบิร์นลีย์ คุมเกมเอาไว้ได้สบายๆ จนเวลาผ่านไป 30 กว่านาที
นาที 36 แมนฯยู มาได้ลุ้นอีกจาก โอเว่น ขึ้นโหม่งโดนบอลไม่ดีเลยออกหลัง จนมาช่วงท้ายเกมนาที 43 เบล็ค เข้าสกัด เอฟร่า ในเขตโทษกรรมการชี้จุดโทษทันทีและเป็น คาร์ริค สังหารพลาดเมื่อ เยนเซ่น พุ่งถูกทางป้องกันการตีเสมอจากแมนฯยู ได้จนจบเกมครึ่งแรก เบิร์นลีย์ ยังนำอยู่ 1:0

ครึ่งหลัง
เริ่มเกมในครึ่งหลังมาแมนฯยูยังไม่มีการเปลี่ยนตัวและเปิด เกมบุกทันที แต่นาที 51 เบิร์นลีย์ มาได้ฟรีคิกเป็น เบล็ค ยิงเลียดเลยเสาออกหลังไป
นาที 59 แมนฯยู ส่ง บาเลนเซีย ลงมาแทน อันเดอร์สัน และในนาที 63 เบอร์บาตอฟ ลงมาแทน โอเว่น
นาที 67 แมนฯยู เกือบตีเสมอได้จากลูกยิงของ ปาร์ค แต่ยังไม่ผ่าน เยนเซ่น โชว์เชพได้อย่างเหนียวแน่น
จากนั้นอีก 2 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นจาก เอลเลียตต์ ส่องไกลไปตรงตัว ฟอสเตอร์ และในนาที 70 เนวิลล์ ลงมาแทนบราวน์ ฝั่งของเบิร์นลีย์ กุ๊ดยอนส์เซ่น แทนอเล็กซานเดอร์ และอีเกิ้ลส์ แทนเพ็ตเตอร์สัน เสริมแนวรับเต็มที่ในนาที 73
นาที 82 เบอร์บาตอฟ เล่นจังหวะ 1-2 กับรูนีย์ จะยิงแต่ยังไม่ผ่าน เยนเซ่น เข้ามาบล็อคเอาไว้ได้ทัน
ช่วงท้ายเกมแมนฯยู ยังบุกต่อเนื่องแต่ยังหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้ เล่นกันขาดๆเกินๆ จนจบเกม 90 นาที เบิร์นลัย์ เอาชนะไปได้ 1:0 คว้า 3 แต้มแรกในบ้านได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบิร์นลีย์ ระบบ : 4-4-2
ผู้รักษาประตู : ไบรอัน เยนเซ่น
กองหลัง : ไทโรน เมียร์ส, คล้าร์ก คาร์ไลส์, อ็องเดร บิเคย์, จอร์แดน
กองกลาง : เกรแฮม อเล็กซานเดอร์(กุ๊ดยอนส์เซ่น น.73), ร็อบบี้ เบล็ค, คริส แม็คคานน์, เวด เอลเลียตต์
กองหน้า : มาร์ติน เพ็ตเตอร์สัน(อีเกิ้ลส์ น.73), สตีเว่น เฟล็ทเชอร์(สตีเว่น ธอมป์สัน น.81)

แมนฯยู ระบบ : 4-4-2
ผู้รักษาประตู : เบน ฟอสเตอร์
กองหลัง : ฟาบิโอ ดา ซิลวา, เวส บราวน์(เนวิลล์ น.70), จอห์น โอเช, ปาทริช เอวร่า
กองกลาง : ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันเดอร์สัน(บาเลนเซีย น.59), ปาร์ค จี-ซอง
กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์, ไมเคิ่ล โอเว่น(เบอร์บาตอฟ น.63)

รูนี่ย์ลุ้นซัดประตูที่ 100 ชนเบิร์นลีย์พุธนี้!

เวย์น รูนี่ย์(Wayne Rooney)
เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงตัวเก่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลุ้นซัดประตูที่ 100 ในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" เกมพรีเมียร์ ลีก พุธนี้ที่ทีมจะลงสนามพบ น้องใหม่เบิร์นลีย์

รูนี่ย์ ซัดให้ทีมในทุกรายการรวมถึง ณ เวลานี้ 99 ประตู หลังย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มาร่วมทีมเมื่อปี 2004 ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมากล่าว

"ผมหวังว่าผมจะยิงได้ในเกมกับ เบิร์นลีย์ ซึ่งมันจะทำให้ผมยิงรวม 100 ประตูให้ทีมในทุกรายการ จริงๆ แล้วผมน่าจะทำได้ตั้งแต่เกมที่ผ่านมา แต่ก็นั่นล่ะ โจ ฮาร์ท เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม ผมกำลังสนุกกับเกมในตอนนี้" รูนี่ย์ กล่าว

ผีเชือดลูกโลกหืด1-0รูนซัดประตูโทน

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2009-10 วัน อาทิตย์ ที่ 16 สิงหาคม 2552

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 : 0 เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ผู้ตัดสิน : ลี มาร์สัน

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2552 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมน้องใหม่ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ เจ้าบ้านไม่มีชื่อของ 2 กองหลังตัวหลัก ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานย่า วิดิช คู่กองหน้า เวย์น รูนี่ย์ จับคู่กับ เบอร์บาตอฟ ขณะที่ทีมเยือน คาเมอร์รอน เจอร์โรม ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

ครึ่งแรก
นาทีที่ 6 นานนี่ ขึ้นเกมมาทางซ้ายก่อนผ่านเข้ามาในเขตโทษ จะให้ เวย์น รูนี่ย์ ทว่า ฟร้องค์ เกอร์ดูย์ สกัดออกไปได้

นาทีที่ 10 เบอร์มิ่งแฮม ขึ้นเกมมากลางสนาม เจมส์ แม็คฟาดเด้น พาบอลหนี โอเชีย ก่อนสับไกยิงด้วยขวา บอลถากเสา ออกหลัง

นาทีที่ 12 แมนยู ได้ลุ้น! เฟล็ทเชอร์ ผ่านบอลให้ เวย์น รูนี่ย์ แต่งจากซ้ายเข้าขวา ก่อนกดเน้นๆ บอลพุ่งเข้ากรอบอย่างได้ลุ้น โจ ฮาร์ท ต้องพุ่งปัดออกหลัง

นาทีที่ 21 แมนยู ขึ้นเกมบุกมาทางซ้าย บอลผ่านมาถึง รูนี่ย์ แต่งเข้าในกดด้วยขวา โจ ฮาร์ท รับเข้าซอง!!

นาทีที่ 27 นานนี่ รับบอล ตรงริมเส้นฝั่งซ้าย ก้อนลากตัดเข้ามาไกล้เส้นเขตโทษ แล้วกดด้วยขวาเต็มข้อ โจ ฮาร์ท ยังไม่พลาดเซฟไว้ได้

นาทีที่ 31 แมนยู น่าจะได้ประตูขึ้นนำ! ฟาบิโอ เตะลอดขาแผงหลังเจ้าบ้าน เปิดยัดเข้ามาจะให้ รูนี่ย์, จอห์นสัน สกัดออกหลังได้ทัน

กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่น!! นาทีที่ 34 บอลยาวจากกลางสนามสาดขึ้นหน้า เบอร์บาตอฟ โหม่งออกข้างให้ นานี่ ตบจากซ้ายเข้ามาในเขตโทษ เวย์น รูนีย์ ขึ้นโขกบอลชนโคนเสาเด้งออกมา รูนี่ย์ แปโล่งๆ ส่งบอลกองก้นตาข่าย แมนยู ขึ้นนำ 1:0

ถัดมา 1 นาที เบอร์มิ่งแฮมสวนกลับ และเกือบได้ประตูตีเสมอ คาเมอร์รอน เจอร์โรม ซัดเต็มข้อ!! บอลแฉลบ พอล สโคลส์ ออกหลัง เบอร์มิ่งแฮมได้ลูกเตะมุม

จากจังหวะลูกเตะมุมทางซ้าย บอลเปิดเข้ามาในเขตโทษ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ขึ้นโขกที่เสาแรก บอลทำท่าจะผ่านเส้นประตู เอวร่า โหม่งสกัดออกมาได้อย่างหวุดหวิด

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นานี่ เล่นชิ่งกับ เอวร่า ก่อนจะเปิดจากเส้นหลังมาหน้าประตูเฟล็ทเชอร์ ยิงระยะไม่ถึง 5 หลาโดนไม่ดีบอลปลิ้นออกหลัง จบครึ่งแรก แมนยู ขึ้นนำ เบอร์มิ่งแฮม 1:0

ครึ่งหลัง
แมนยู มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาแทน หลุยส์ นานี่ ซึ่งมีอาการเจ็บในครึ่งแรกเล่นต่อไม่ไหว

นาทีที่ 47 แมนยู ได้ลุ้นอีกครั้ง จากการยิงของ เวย์น รูนี่ย์ ทว่า โจ ฮาร์ท พุ่งปัดออกไปได้

นาทีที่ 52 กิ๊กส์ ตัดบอลได้ ก่อนจ่ายสั้นๆให้ รูนี่ย์ ตักเส้นเขตโทษเข้าไปจะให้ เบอร์บาตอฟ, ฟร้องค์ เกอร์ดูย์ ชิงโหม่งออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด

เบอร์มิ่งแฮม ตัดบอลได้ ก่อนจะขึ้นเกมบุกมาทางขวา ในนาทีที่ 57 ลาร์สสัน จ่ายเข้ากลางให้ คีธ ฟาเฮย์ กดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งถากเสาออกหลัง

นาทีที่ 60 เวย์น รูนี่ย์ ถูก เกรกอรี่ วิญอล ทำฟาวล์ล้มลงหน้าเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกฟรีคิก ไรอัน กิ๊กส์ ปั่นบอลแฉลบศีรษะ คาเมอร์รอน เจอร์โรม ออกหลัง

นาทีที่ 63 เบอร์มิ่งแฮม ได้ลุ้น!! เจมส์ แม็คฟาดเด้น ลากบอลจากขวาตัดเข้าใน ก่อนกดเน้นๆ เบน ฟอสเตอร์ ล้มตัวรับไว้ได้

นาทีที่ 65 เบอร์มิ่งแฮม เปลี่ยนตัวผู้เล่น แกร์รี่ โอคอนเนอร์ ถูกส่งลงมาแทน คาเมอร์รอน เจอร์โรม

แมนยู ได้ลุ้น!! นาทีที่ 70 บอลเปิดจากเส้นหลังเข้ามาโดย ฟาบิโอ ให้ เบอร์บาตอฟ ขึ้นโขก ลี คาร์สลีย์ โหม่งสกัดออกมาได้จากเส้นประตู

นาทีที่ 74 เบอร์มิ่งแฮม เปลี่ยน คริสเตียน เบนิเตซ ลงมาแทน ลี คาร์สลีย์ ขณะที่ แมนยู ส่ง ไมเคิ่ล โอเว่น ถูกส่งลงมาแทน เบอร์บาตอฟ อีกคนเป็น เวสต์ บราวน์ ลงมาแทน จอห์นี่ อีแวนส์

นาทีที่ 78 เบอร์มิ่งแฮม เกือบได้ประตูตีเสมอ! เบนิเตซ พาบอลหนี เวสต์ บราวน์ เข้ามายิงในเขตโทษ ก่อนซัดด้วยขวา ฟอสเตอร์ ต้องปัดออกหลัง

เบอร์มิ่งแฮม เปลี่ยนตัวผู้เล่น นาทีที่ 81 เจมส์ โอเชีย ถูกส่งลงมาแทน เซบาสเตียน ลาร์สสัน

นาทีที่ 83 แมนยู ขึ้นเกมมาทางซ้าย กิ๊กส์ เปิดเข้ามาให้ รูนีย์ สะบัดโขก บอลหลุดเสาไกลออกหลัง

ช่วงเวลาที่เหลือ เกมส่วนใหญ่ยังเป็นของ แมนยู โอเว่น ที่เปลี่ยนลงมาได้โอกาสยิง ช่วงทดเจ็บ ทว่าไม่ผ่าน โจ ฮาร์ท โดขณะ เบอร์มิ่งแฮม พยายามบุกทว่ายังพลาดในพื่นที่สุดท้าย จบเกมเป็นแมนยู ที่เปิดบ้านเอาชนะ เบอร์มิ่งแฮม 1:0 ประเดิม 3 คะแนนแรกเกมพรีเมียร์ลีก นัดเปิดซีซั่น

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : เบน ฟอสเตอร์
กองหลัง : ฟาบิโอ ดาซิลวา, จอห์น โอเชีย, จอห์นี่ อีแวนส์ (เวสต์ บราวน์ น.74), ปาทริช เอวร่า
กองกลาง : นานี่ (ไรอัน กิ๊กส์ น.46), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคล์ส, อันโตนิโอ วาเลนเซีย
กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (ไมเคิ่ล โอเว่น น.74)
ตัวสำรอง : โทมัส คูสซ์แซ็ค, เวสต์ บราวน์, เดอ ลาเอท, แอนเดอร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, ดา ร์รอน กิ๊บสัน, ไมเคิ่ล โอเว่น

เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ : ระบบ 4-5-1
ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ท
กองหลัง : สตีเว่น คาร์, จอห์นสัน, ฟร้องค์ เกอร์ดูย์, เกรกอรี่ วิญอล
กองกลาง : เซบาสเตียน ลาร์สสัน (เจมส์ โอเชีย น.81), เจมส์ แม็คฟาดเด้น, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ลี คาร์สลีย์ (คริสเตียน เบนิเตซ น.74), คีธ ฟาเฮย์
กองหน้า : คาเมอร์รอน เจอร์โรม (แกร์รี่ โอคอนเนอร์ น.65)
ตัวสำรอง : ไมค์ เทย์เลอร์, สจ๊วร์ต พาร์นาบี้, แกรี่ แม็คเชฟเฟรย์, เจมส์ โอเชีย, เควิน ฟิลลิปส์, แกร์รี่ โอคอนเนอร์, คริสเตียน เบนิเตซ

ท่านเซอร์ยันพรีเมียร์ยังเป็นที่หนึ่ง

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน(Sir Alex Ferguson)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือ"ผีแดง"แมนฯยู ยังคงยืนยันว่าลีกสูงสุดแดนผู้ดียังคงเป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้หลายฝ่ายจะบอกว่า ลาลีกา สเปน แซงหน้าไปแล้ว หลังจากแมนฯยู พ่ายบาร์เซโลน่า ในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ ขณะที่รีล มาดริด ซื้อซูเปอร์สตาร์เสริมทัพมากมาย รวมถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยก็ตาม

พรีเมียร์ลีก กลายเป็นลีกที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในยุโรป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งผมก็ไม่มีข้อกังขาในเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย บาร์เซโลน่า เหมะสมแล้วที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่แล้วไปครอง แต่ถ้าคุณลองดูในช่วง 4-5 ปีหลังสุด บรรดาทีมจากอังกฤษ ต่างผลัดกันครองความยิ่งใหญ่ในเกมยุโรปอย่างแท้จริง ผมยังคงเชื่อว่า พรีเมียร์ลีก คือลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรปเหมือนเดิม

ผีแดงปล่อยซิมพ์สันให้สาลิกายืม

แดนนี่ ซิมพ์สัน(Danny Simpson)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปล่อยแดนนี่ ซิมพ์สัน กองหลังดาวรุ่งให้นิวคาสเซิ่ลยืมตัวไปใช้งานจนถึงมกราคมปีหน้านับเป็นการ ปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวเป็นครั้งที่ 6 แล้ว

แดนนี่ ซิมพ์สัน แบ็กขวาวัย 22 ปีของ"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะย้ายออกจากถิ่นโอล์ด แทรฟฟอร์ดแบบยืมตัวจนถึงต้นปีหน้า หลังจากไม่สามารถจะขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้ โดยจะหอบข้าวของไปอยู่กับ"สาลิกาดง"นิวคาสเซิ่ล นับเป็นการถูกยืมตัวครั้งที่ 6 ของเขาแล้ว

การที่สาลิกาดงดึงซิมพ์สันเข้าร่วมงานด้วยก็เพื่อแทนตำแหน่งแบ็กขวาของ ฮาบิบ เบย์ ที่ย้ายไปยังแอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์(ประมาณ 110 ล้านบาท)ทั้งนี้ซิมพ์สันจะเป็นตัวเลือกแรกที่จะได้ลงเล่นในชุดใหญ่ของนิวคาส เซิ่ล

แบ็กสัญชาติอังกฤษรายนี้เกิดและเติบโตในเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อฤดูกาลที่แล้วได้ถูกแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ยืมตัวไปใช้งานและได้ลงเล่น 12 นัดก่อนที่จะเร่ร่อนมาอยู่กับนิวคาสเซิ่ล

ผี-สิงห์เปิดศึกคอมมิวนิตี้ชิลด์ 2009

ริโอ เฟอร์ดินานด์ - แฟร้งค์ แลมพาร์ด
(Rio Ferdinand - Frank Lampard)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เชลซี
สนาม : เวมบลีย์, ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย
ช่องถ่ายทอด : ช่อง 3, ทรู สปอร์ต 1 เวลา 21.00 น.

คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2009 เป็นรายการการกุศลที่จะจัดขึ้นก่อนเกมพรีเมียร์ลีก เปิดซีซั่น โดยนำเอาแชมป์พรีเมียร์ลีก มาลงสนาม พบกับแชมป์เอฟเอคัพ โดยในปีนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งโชว์ฟอร์มเยี่ยม เอาชนะ บาเลนเซีย มาได้ด้วสกอร์ 2:0 ทีมจะยังคงชวดใช้บริการของ เนมานย่า วิดิช ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่าง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์

คาดว่า เซอร์ อเล็กซ์ กุนซือของทีมน่าจะมีการปรับทัพเล็กน้อยจากเกมล่าสุด ผู้เล่นเก๋าเกมอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ จะได้ลงออกสตาร์ทตั้งแต่ต้นเกม เช่นเดียวกับดาวเตะสาระพัดประโยชน์อย่าง จอห์น โอเชีย ส่วนคู่หน้าตัวยืนคือ เวย์น รูนี่ย์ ขณะที่ ไมเคิ่ล โอเว่น กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ คนใดคนหนึ่งอาจต้องนั่งสำรอง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงเล่นในระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตูเป็น เบน ฟอสเตอร์ แนวรับ 4 คนประกอบไปด้วย จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า แผงกองกลางมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์ คู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ จะจับคู่กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หรือไม่ก็ ไมเคิ่ล โอเว่น คนใดคนหนึ่ง

เชลซี
จะเป็นการประเดิมสนามคุมเกมใหญ่ของ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคนใหม่ของทีม ความพร้อมโดยร่วมถือว่ายอดเยี่ยม เพราะไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บ

แข้งใหม่ของทีมอย่าง ยูริ เซอร์คอฟ, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ รอสส์ เทิร์นบูลล์ มีลุ้นลงสนาม แต่อาจจะออกสตาร์ทเป็นตัวสำรอง ขณะที่ผู้เล่นตัวหลักคนอื่นๆ พร้อมลงสนามทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลก้า, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ จอห์น เทอร์รี่

เชลซี จะลงเล่นในระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตูเป็น ปีเตอร์ เช็ก กองหลังประกอบไปด้วย บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล กองกลางมี จอห์น โอบี มิเกล, มิชาแอล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด ส่วนคู่หน้า นิโกล่าส์ อเนลก้า จะลงล่าตาข่ายร่วมกับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

เบิร์ฟลั่น!ขอพิสูจน์ฝีเท้ากับผี

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ(Dimitar Berbatov)
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวแตะค่าตัวมหาศาลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดาวยิงที่"ผีแดง"ซื้อมาจาก"ไก่เดือยทอง"ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 31 ล้านปอนด์หรือประมาณ 1,736 ล้านบาท ที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังไม่เหมือนเช่นเล่นให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ทำประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียง 14 ประตู

แต่ล่าสุด ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงทีมชาติบัลแกเรีย ที่อดีตเคยระเบิดฟอร์มสุดยอดซัดให้"ไก่เดือยทอง"ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า"ไม่เคยท้อแท้ แม้ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาจะโชว์ฟอร์มไม่ดี แต่ตอนนี้มั่นใจซีซั่นหน้า เขาจะมีชื่อสอดแทรกเป็นผู้เล่น 11 คนแรกในการลงสนาม แม้ว่า เฟอร์กี้ จะมีตัวเลือกไว้แล้วก็ตาม(ไมเคิ่ล โอเว่น และ เวย์น รูนี่ย์) บอกได้เลยว่า ที่ผ่านมาเขาไม่เคยท้อและคิดไว้เสมอพร้อมพิสูจน์ฝีเท้าที่นี้ต่อไป"ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หัวหอก"ผีแดง"วัย 28 ปีกล่าวในที่สุด